ส่องทะเบียน "นายกฯ" ลงพื้นที่ระนอง เจ้าตัวแวะไหว้ศาลหลักเมือง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองระนอง เจอประชาชนตะโกนถามเงินดิจิทัลวอลเล็ต

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยรัฐมนตรี อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ลงพื้นที่จังหวัดระนอง เพื่อติดตามโครงการพัฒนา จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ก่อนจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ อย่างเป็นทางการ วันพรุ่งนี้

โดยจุดแรกนายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยรถยนต์สีดำ ทะเบียน กง 888 จังหวัดระนอง มาสักการะศาลหลักเมืองระนอง และอนุสาวรีย์พระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองคนระนอง ซึ่งมีพ่อของนายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ สส.ระนอง พรรคภูมิใจไทย มารอให้การต้อนรับและบรรดาแฟนคลับและอสม. มารอมอบดอกกุหลาบพร้อมขอถ่ายรูปนายกรัฐมนตรี ด้วย

ทั้งนี้ มีจังหวะหนึ่ง ก่อนนายกฯจะเดินออกจากศาลหลักเมือง มีประชาชนตะโกนเรียก "ท่านนายกฯ ประชาชนฝากถามเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต รออยู่นะคะ" นายกฯได้เดินเข้าไปหาแล้วตอบว่า "ครับ"

ขณะที่นายอนุทิน ก็โดนตะโกนแซวว่า "เขยระนอง" ทำตัวยิ้มไม่หุบ เพราะ "คุณจ๋า"แฟนของนายอนุทิน เป็นคนจังหวัดระนอง

จากนั้น นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อมา ติดตามประเด็นการค้าผ่านแดน แรงงานข้ามชาติ พิธีการศุลกากร และประมง และพบปะผู้แทนชาวประมงในการแก้ไขปัญหา IUU ณ ท่าเรือระนอง - เกาะสอง ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง​

ส่วนไฮไลต์สำคัญ ของการลงพื้นที่ วันนี้ คือไปดูโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน หรือ โครงการแลนด์บริดจ์ชุมพร-ระนอง ที่อุทยานแห่งชาติแหลมสน ตำบลม่วงกลวง อำเภอกะเปอร์ โดยถือว่าเป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ซึ่งเป็นจุดที่จะสร้างโครงการแลนด์บริดจ์ ภายหลังจากที่รัฐบาลมีการโรดโชว์โครงการนี้ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตลอดการทำงานตลอด 4 เดือนที่ผ่านมาด้วย

ขณะที่การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ จังหวัดระนอง ที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 ม.ค. กลุ่มจังหวัดและจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล ได้จัดทำข้อเสนอเพื่อขอรับงบประมาณจากครม.สัญจร เพื่อไปดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ โดยเฉพาะโครงการสำคัญที่มีความพร้อมและดำเนินการได้ทันทีและแล้วเสร็จภายใน 1 ปี หรือ “ควิกวิน” รวมทั้งหมด 21 โครงการ วงเงินรวมกว่า 616.9 ล้านบาท อาทิ โครงการผนึกกำลังผู้ประกอบการทางการค้ากับเศรษฐกิจท่องเที่ยวอันดามันเชิงสร้างสรรค์ 25.3 ล้านบาท ,
โครงการมารีน่าชุมชน ยกระดับคุณภาพโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเรือท่องเที่ยวชุมชนทะเลอันดามัน 16.8 ล้านบาท , โครงการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล 35.9 ล้านบาท เป็นต้น