จากกรณีเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (29 ส.ค. 66) ได้เกิดเหตุฆ่าทุบหัว นายอนันตศิลป์ อายุ 63 ปี หรือ "ป๋าสาร์จ" ผู้กว้างขวางวงการเงินกู้ในจังหวัดลำปาง ซึ่งถูกพบเป็นศพอยู่ภายในบ้านไม้สักหลังใหญ่ ที่หมู่บ้าน บ้านไร่สันติสุข ม.11 ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง สภาพศพนอนฟุบคว่ำหน้ากับเก้าอี้ใกล้กับโรงจอดรถข้างบ้าน และมีคราบเลือดไหลนองเต็มพื้น

จากการชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นพบว่ามีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่ท้ายทอยจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต


ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกนาทีเกิดเหตุไว้ได้ โดยในภาพจับภาพของชายคนร้าย สวมเสื้อสีดำใส่ผ้ากันเปื้อนทับ กางเกงยีนขาสั้น ทำทียืนคุยโทรศัพท์อยู่ด้านหลังป๋าสาร์จ ผู้ตาย ระยะห่างประมาณ2เมตร ซึ่งผู้ตายกำลังนั่งดูโทรศัพท์ และทำงานที่โต๊ะ พอได้โอกาสที่ผู้ตายเผลอ จึงใช้มือซ้ายล้วงเอาค้อนที่เหน็บไว้ทางด้านหลังของตนออกมา แล้วเดินปรี่เข้าไปกระหน่ำทุบบริเวณท้ายทอยของผู้ตาย หลายครั้ง จนผู้ตายคอพับตายคาเก้าอี้

ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายจรัล (ต๋อง) อายุ48ปี ประกอบอาชีพเปิดร้านบะหมี่เกี๊ยว ขายอยู่ในพื้นที่ บ้านฟ่อน ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง

โดยหลังก่อเหตุนายจรัล ได้หยิบทรัพย์สินของผู้ตายไปด้วย ทั้งสร้อยคอทองคำ , แหวนเพชร , ทองคำแท่ง และเงินสด 20,000 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นมากกว่า 1 ล้านบาท

จากการสอบถามนางน้อยภรรยาผู้ตาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนขายของ ตนได้พยายามโทรหาสามีหลายสายแต่ไม่มีใครรับสาย รู้สึกผิดสังเกต ปกติถ้าโทรหาสามีก็จะรับสายทันที จึงขับรถมาที่บ้านพอเปิดประตูรั้วหน้าบ้านเห็นสามีนอนคว่ำหน้าและมีเลือดไหลเต็มพื้น จึงตะโกนเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยแต่สามีหมดลมหายใจไปแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสอบดังกล่าว

จากการสอบถามนางน้อยเพิ่มเติมทราบว่ากระเป๋าหนังแบบสะพายสีน้ำตาล ของสามีซึ่งในกระเป๋าจะมีอาวุธปืน สร้อยคอทองคำ เลสทองคำ ปกติจะสะพายติดตัวตลอดเวลาหายไป

จากนั้นชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด หาพยานหลักฐาน คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นรู้จักกับผู้ตายก่อนจะมาก่อเหตุฆ่าผู้ตายคาบ้านดังส่วนสาเหตุคาดขัดผลประโยชน์ธุรกิจส่วนตัว หรืออาจฆ่าชิงทรัพย์


ต่อมาทีมข่าวช่อง8 สอบถามนางมุก ภรรยา นายต๋องผู้ก่อเหตุ เปิดใจกับทีมข่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุการก่อเหตุครั้งนี้ เพราะสามีไม่เคยเล่าอะไรให้ตนฟังเลย วันเกิดเหตุสามีก็ไม่ได้ปฏิกิริยาอะไร ทำตัวปกติเหมือนทุกวัน สามีก็ไปช่วยตนที่ร้านก๋วยเตี๋ยวปกติ ตื่นมาก็ไปตลาดช่วยกันซื้อของมาเตรียมเปิดร้าน ไม่เคยปริปากบอกกับตนเรื่องเงินกู้เลย ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วง ไม่รู้จะอยู่จะกินยังไง พอทราบข่าวจากตำรวจที่มาตามหาตัวสามีที่บ้านเมื่อคืน ตัวเองก็นอนไม่หลับเลยทั้งคืน วันนี้ทั้งวันยังไม่กินข้าว กินไม่ลง หลังเกิดเหตุสามีไม่ติดต่อมาหาตนเลย อยากฝากถึงสามีว่า หากไปแล้วลำบากก็อยากให้ออกมามอบตัว ถึงยังไงก็ยังได้เจอหน้ากันอยู่ ยังส่งความอบอุ่นถึงกันได้ แม้ต้องติดคุกก็ตาม ปกติสามีเป็นคนเฟรนด์ลี่ มีแต่เสียงหัวเราะเป็นคนไม่เครียด โดยเจอกันล่าสุดก็คือเมื่อวานเพราะไปช่วยกันขายของที่ร้าน เสร็จจากเก็บของที่ร้านก็กลับมาบ้านอยู่กันปกติ จนอาบน้ำเสร็จก็ยังมาไหว้พระสวดมนต์กันตามปกติเหมือนทุกวัน ซึ่งก็ไม่รู้ว่า สามีได้ออกจากบ้านไปก่อเหตุตั้งแต่เมื่อไหร่ จนมาทราบกับทางตำรวจที่มาตามหาสามีที่บ้าน

ส่วนตัวแล้วนางมุก รู้สึกเสียใจและตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้กล่าวขอโทษ กับทางญาติผู้เสียชีวิตด้วย

"ต้องกราบขออภัยขอโทษแทนนายต๋องด้วย ก็ไม่รู้ว่าบันดาลโทสะยังไง ถึงทำไปได้ขนาดนั้น ต้องกราบขอโทษด้วยใจจริงๆ" นางมุก กล่าว


ล่าสุดทางญาติได้นิมนต์พระสงฆ์ มาประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต ที่บ้านในจังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะนำร่างของป๋ามาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ที่วัดบ้านเกิดจังหวัดอุทัยธานี

หลังจากเสร็จพิธีสวดถอนแล้ว ทางญาติ ก็ได้บริจาคเก้าอี้ตัวที่นายสาร์จนั่งเสียชีวิตพร้อมทั้งโต๊ะให้กับทางวัด

*งานศพป๋า
ซึ่งทางครอบครัวได้นำร่างผู้ตายกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดจังหวัดอุทัยธานี ท่ามกลางบรรยากาศ ที่มีครอบครัวและญาติๆที่ทราบข่าว เดินทางมาร่วมพิธีสวดอภิธรรม ศพในคืนแรก และจะตั้งศพสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 3 คืน และจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 4 กันยายน 2566 เวลา 16.00 น.หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

นางลาวัน อายุ 51 ปี ภรรยาของเสี่ยสาร์จ เล่าว่า โดยปกติแล้วป๋าสาร์จ จะไม่ยอมให้ใครเข้ามาในบ้านเด็ดขาด เพราะแกก็จะระวังตัวเองเนื่องจากรู้ตัวเองดีว่าทำอาชีพเกี่ยวกับปล่อยเงินกู้

ยกเว้นนายต๋องที่ถือว่าเป็นลูกหนี้คนสนิทที่ไปมาหาสู่กัน ซึ่งกับนางลาวันเองก็ยังมองว่านายต๋องเป็นคนดี พอทราบข่าวแล้วก็ไม่เชื่อจนมาเห็นกล้องวงจรปิดกับตา แทบไม่อยากเชื่อสายตาที่เห็นเพราะเท่าที่รู้จักกับนายต๋องมานานกว่า 1 ปี ที่มาเป็นลูกหนี้ของป๋า นายต๋องเป็นเด็กดีมาก จนเป็นลูกหนี้คนเดียวที่สามารถเข้าบ้านป๋าได้

ส่วนหนี้ที่นายต๋องติดป๋าอยู่นั้นเป็นจำนวนเงินประมาณ 20,000 บาท ซึ่งก็ยอมรับว่าป๋าคิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 20 แต่สาเหตุที่ทำให้นายต๋องต้องก่อเหตุแบบนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องเงินกู้ที่มากู้ป๋า เพราะปกติถ้าไม่มีเงินใจป๋าจริงๆระดับนายต๋องที่เป็นคนสนิทกันป๋าก็จะไม่ว่าอะไรให้บอกแกตรงๆ แกก็จะให้เวลาไปหาเงินมาก่อน แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่านายต๋องมีการเตรียมตัวนำค้อนมาจากบ้านเป็นการตั้งใจวางแผนเพื่อที่จะมาปล้นเงินป๋า เพราะทราบมาว่านายต๋องเป็นหนี้อยู่เป็นจำนวนมากอาจจะพยายามหาเงินไปปิดหนี้ก้อนอื่น

ข้อมูลที่ตนเองพอจะรู้ก็มีเพียงแค่สามีนั้นได้บอกกับตนเองว่า วันจันทร์ต๋องจะมาปิดยอด 18,000 บาท แต่ต่อมาสามีก็ได้บอกกับตนเองว่า ต๋องไม่มาปิดแล้วหาเงินไม่ทัน แต่มาขอล้ม ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ไม่ได้สนใจว่าจะอะไรยังไงกัน เพราะจะต่างคนต่างทำงานของตนเองกันไป เพราะสามีนั้นมีลูกค้าเงินกู้เพียงแค่ไม่กี่คน ไม่มีลูกน้อง ทำเพียงคนเดียวเท่านั้น จริงๆผู้ตายเป็นคนจังหวัดอุทัยธานี แต่ไปอยู่ที่จังหวัดลำปางได้ประมาณ 25 ปีแล้ว ซึ่งลักษณะนิสัยของผู้ตายนั้นปกติแล้วเป็นคนใจดี แต่จะเป็นคนที่เสียงดัง ซึ่งก็อยากให้คนที่ก็ทำผิดเข้ามามอบตัว ส่วนขั้นตอนการดำเนินคดีต่างๆนั้นก็ขอยกให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ เพราะตอนนี้มันตันไปหมด จนไม่รู้จะทำอะไรยังไงต่อไปแล้ว

ในส่วนของคดี ล่าสุด ศาลจังหวัดลำปาง ได้อนุมัติหมายจับนายจรัญ หรือต๋อง อายุ48ปี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

ขณะที่เจ้าหน้าที่สืบสวนจังหวัดลำปาง สืบสวน สภ.เขลางค์นคร ได้มีการร่วมประชุมวางแผนในการติดตามตัว คาดว่าน่าจะหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว

ล่า "ต๋อง หมี่เกี๊ยว" ใช้ค้อนฟาดเสี่ยสาดเงินกู้ ล้างหนี้ 2 หมื่น เมียผวายกโต๊ะให้วัด