จากเหตุการณ์ที่น้องไนซ์วัยเพียง 6 ขวบ โดนทำร้ายร่างกายมีแผลเป็นทั่วร่างกาย สุดท้ายตาบอด ซึ่งมาจากฝีมือของผู้เป็นพ่อเลี้ยง ที่ได้ใช้ธูปและบุหรี่จี้ไปตามตัว กระทืบทุบตี จับโยนลงน้ำ ปล่อยให้อดข้าว และที่ร้ายแรงที่สุดคือจับเด็กผูกไว้บนขื่อคานบ้าน แล้วเฆี่ยนตีตั้งแต่ค่ำจนเช้า จนเด็กสลบและนอน ICU กว่า 4 วัน

 

ล่าสุดวันที่ 2 สิงหาคม 2566 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ได้นำกำลังลงพื้นที่บริเวณแพแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอศรีสวัสดิ์ เพื่อควบคุมตัวนายอรรถพล อายุ 36 ปี พ่อเลี้ยง และนางสาวเกษร หรือแต อายุ 30 ปี แม่แท้ๆของน้องไนซ์ เพื่อนำตัวมาสอบปากคำที่โรงพัก โดยพ่อเลี้ยงและแม่แท้ๆของน้องไนซ์ โดยทั้งคู่มีสีหน้าเคร่งเครียดในระหว่างการถูกสอบปากคำ

 

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายสาหัส โดยแม่แท้ๆยอมรับสภาพว่าได้ทำร้ายน้องไนซ์จริง ส่วนพ่อเลี้ยงยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งทางเจ้าที่หน้าตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของพ่อเลี้ยง

 

ภายหลังการจากการสอบปากคำเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัวนางสาวเกษร หรือ แต แม่ของน้องไนซ์มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพจำนวน 6 จุด โดยจุดที่ทำแผนทั้ง 6 จุดอยู่ภายในแพ ซึ่งนางสาวเกสร และ นายอรรถพล ทำงานและพักอาศัยอยู่ กับน้องไนซ์ ซึ่งทั้ง 6 จุดมีทั้งการลงโทษด้วยการใช้ไม้เรียวตี ใช้ธูปที่มือทั้งสองข้าง รวมถึงการใช้เท้าและเหยียบที่บริเวณชายโครง จนทำให้กระดูกซี่โครงร้าว

 

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนางสาวเกษร ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนางสาวเกษรยังคงยืนการว่าตนเองเป็นผู้ลงมือ ทำร้ายน้องไนซ์จนได้รับบาดเจ็บเพียงคนเดียว สามีไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง มีเพียงครั้งเดียวที่สามีอยู่ในเหตุการณ์ ส่วนนอกจากนั้น ตนเองจะทำร้ายน้องไนท์ในช่วงที่สามีออกไปทำงานหรือหาปลา ส่วนสาเหตุที่ลงมือ ก็มาจากการที่น้องไนซ์ดื้อ ตนจึงต้องการทำโทษเพื่อให้หราบจำแต่สุดท้ายก็ลงมือจนถึงขั้นทำให้ลูกได้รับบาดเจ็บ

 

นางสาวเกษรยังได้กล่าวทั้งน้ำตาว่า อยากจะขอโทษจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจะไม่ลงมือทำร้ายลูกแบบนี้อีก เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รักลูกหรือไม่ นางสาวเกษรยังคงยืนยันว่ารักลูก และไม่ได้มีเจตนาที่ทำให้ลูกได้รับบาดเจ็บ

 

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางมายังแพจุดเกิดเหตุ พบ นางลูกจันทร์ อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของแพดังกล่าว เล่าว่า เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2565 นายเกษมและนางอ้อยได้พาน้องไนซ์มาที่แพ บอกว่าของานทำหน่อย ตนเคยพบเจอนายเกษมอยู่บ่อยๆ เห็นว่าไว้ใจได้ เลยให้ทำงานเฝ้าแพ โดยให้นายเกษมเป็นคนลากแพ และให้นางอ้อยเป็นแม่บ้านทำความสะอาด ทั้ง 3 คนก็อยู่กันอย่างปกติสุข

 

จนเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2565 มีเพื่อนบ้านโทรมาหานางลูกจันทร์ แจ้งว่า "ไอ้เกษมมันตีลูก เสียงดังโวยวายเลย ไปช่วยเด็กหน่อย" ตนจึงรีบวิดีโอไปหานายเกษม เพื่อสอบถามว่านายเกษมทำอะไรลูก แต่ปรากฏว่า นายเกษมโชว์ภาพน้องไนซ์กำลังทำการบ้านอยู่ และบอกว่ากำลังสอนการบ้านลูก จึงดุนิดหน่อย (แต่น้องไนซ์ไม่ได้เรียนหนังสือ) และหลังจากนั้นได้มีเพื่อนบ้างแจ้งมาอีกว่า นายเกษมโยนน้องไนซ์ลงน้ำหลังแพ นางลูกจันทร์ก็ได้โทรมาสอบถามอีกครั้ง ว่าทำลูกจริงๆหรือเปล่า นายเกษมตอบว่า "ผมแค่ให้ลูกฝึกว่ายน้ำ" (แต่น้ำลึก 20 เมตร)

 

จนมาเกิดเรื่องล่าสุดเมื่อช่วงต้นปีอีกครั้ง นางลูกจันทร์ก็ได้ถามอีก ว่าตกลงทำน้องไนซ์หรอ เพราะใบหน้าน้องเต็มไปด้วยรอยเขียวช้ำ ตามตัวก็เป็นรอยไหม้คล้ายโดนไฟจี้ แต่รอบนี้นายเกษมไม่ตอบ กลับเป็นนางอ้อยที่ตอบว่า "หนูเป็นคนทำเอง" พร้อมร้องห่มร้องไห้ กราบเท้าขอโทษป้าลูกจันทร์ว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจ แค่จะลงโทษลูกเฉยๆ เพราะลูกดื้อ

รวบพ่อเลี้ยงธูปจี้น้องไนซ์ตาบอด ช็อกแม่แท้ๆ ร่วมบงการ เด็กพ้นนรกได้ชีวิตใหม่