"พ่อ-แม่" เตรียมสินสอดไปงานแต่งลูกชาย ระหว่างทางไปทำผมถูกคนร้ายกระชากกระเป๋าสูญ 3 แสน

วันที่ 18 พฤษภาคม 2566 นางน้ำอ้อย อายุ 47 ปี พนักงานโรงงานในจ.พระนครศรีอยุธยา ชี้จุดที่เกิดเหตุ ริมถนนอุทัย - วัดโตนดเตี้ย ม.4 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ถูกคนร้ายกระชากกระเป๋าสะพาย ขณะกำลังซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่ นายนพพร สามีเป็นคนขับ ภายในกระเป๋ามีเงินสดจำนวน 126,000 บาท ทองรูปพรรณ สร้อยข้อมือ หนัก 2 บาท สร้อยหนัก 2 บาท

นางน้ำอ้อย เล่าว่า คนร้ายชิงทรัพย์เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 05.30 น. ตนเองได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์สามี เพื่อไปแต่งหน้าทำผมที่ร้านทำผมเตรียมที่จะไปแห่ขันหมากแต่งงานของลูกชาย ได้นำกระเป๋าที่มีเงินสดและทองรูปพรรณที่เป็นสินสอดติดตัวไปด้วยเพราะกลัวลืม หลังจากแต่งหน้าทำผมเสร็จ ระหว่างเดินทางกลับใกล้จะถึงบ้าน มีคนร้ายเป็นชายขี่รถจักรยานยนต์สีดำเข้ามาประกบ แล้วกระชากกระเป๋าที่สะพายเอาไว้จนรถจักรยานยนต์ล้ม ตนเองตกลงจากรถจนแขนข้างขวาหัก มีบาดแผลตามร่างกาย คนร้ายขับหลบหนีไปสามีขับติดตามไปแต่ทัน

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ตกใจและเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนั้นต้องรีบไปหาหมอเพราะปวดแขนมากและต้องไปยืมเงินจากญาติ ไปซื้อทองและนำไปสินสอดให้ทันฤกษ์ของขบวนขันหมาก ส่วนตนต้องไปหาหมอไม่ทันไปร่วมงานแต่งลูกชาย ตนเองได้นำเงินที่ทำงานเก็บเอาไว้ เพื่อเป็นสินสอดในการแต่งงานให้ลูกชาย อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งรัดติดตามจับกุมคนร้าย เพราะตนเองยังต้องมีหนีสินที่ไปยืมเงินจากญาติมา ส่วนตัวคิดว่าคนร้ายคงจะมาตระเวนหาเหยื่อเพื่อดักรอชิงทรัพย์พอเห็นตนสะพายกระเป๋ามาจึงลงมือก่อเหตุ

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี พบกับ พ.ต.ท.ประสิทธิ์ สุขโขรอง ผกก.สืบสวน สภ.อุทัย ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดสืบสวนตั้งแต่วันเกิดเหตุทันที มีการสอบสวนพยาน ที่เกี่ยวข้องทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ และตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดตามเส้นทางก่อนและหลังเกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าพอสมควรอยู่ระหว่างการสสืบสวนขยายผลเพิ่ม

จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า พบว่าคนร้าย เป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีขาว สวมเสื้อแขนยาวสีดำ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามผู้เสียหายไป เมื่อขับตามไปทันแล้วได้ลงมือก่อเหตุก่อนที่จะหลบหนีไป