พบข้อมูลสำคัญ"ด.ต.ไพรัตน์"คนสนิท "แอม-รองผกก." เสียชีวิตปริศนา พบบัญชีมีการยักย้ายถ่ายโอนหลังตายไปแล้ว ญาติสงสัยหนัก"แอม"เกี่ยว?

ความคืบหน้าคดี "แอม" ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาลักทรัพย์ หลังพบว่ามีผู้เสียชีวิตปริศนานับสิบคน ซึ่งทั้งหมดเกี่ยวโยง"แอม"

ล่าสุด ทีมข่าวช่อง 8 ไล่ย้อนเส้นทางรถที่พบถูกแอมนำไปจำนำ ล่าสุดพบหลักฐานสำคัญระบุว่า แท้ที่จริงแล้วนายแด้ ไม่ได้เป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว และมีบุคคลซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของรถตัวจริงออกมายืนยันตัว ตรวจระบุว่าเคยนำรถไปจำนำกับนายแด้ แต่รถถูกสวมทะเบียน ไปหลังจากที่แด้ตาย ปรากฏว่าแอมนำรถมาใช้ที่อุดรฯ และมีการอ้างว่าแอบ มีการโทรตามรองผกก.อดีตสามี ให้นั่งรถทัวร์มาหา เพื่อให้มาขับรถคันดังกล่าวมาให้ ส่วนผู้ที่นำมาจำนำกับเสี่ยฮัวก็คือแอม 

นอกจากนี้ ทีมข่าวช่อง 8 พบข้อมูลสำคัญ ว่าลูกน้องของรองผกก.นายหนึ่งได้ปริศนา โดยขณะนี้ญาติผู้ตายเริ่มสงสัยว่าเกี่ยวกับแอมหรือไม่

โดยดาบตำรวจไพรัตน์ เสียชีวิตวันที่ 21 มิ.ย. 2564 ที่แฟลตตำรวจ จ.กาญจนบุรี และเมื่อไล่เรียงเหตุการณ์ก่อนที่ดาบตำรวจไพรัตน์ วันที่ 20 มิ.ย. 2564 ช่วงเช้าทำเรื่องออกรถ บ่ายออกจากบ้านบ่นกับแม่ว่าปวดแขน จะไปหายากิน และในเวลา 18.00 น. ถึงแฟลตตำรวจ

โดยเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2564 เวลา 06.00 น. พบว่าเสียชีวิตภายในแฟลตตำรวจ

ภายหลังจากเกิดเรื่องแอม ที่ถูกดำเนินคดี ทำให้ญาติของดาบตำรวจไพรัตน์ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าจะเกี่ยวกับแอมหรือไม่

ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณพ่อ อายุ 73 ปี ซึ่ง เป็นพ่อของ ด.ต.ไพรัตน์ ยืนยันว่า ส่วนตัวติดใจสาเหตุการตายของลูกชาย เนื่องจากก่อนที่ลูกชายจะตาย ลูกชายเป็นคนแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว และก็ไม่รู้จริงๆว่าก่อนตาย ลูกชายเดินทางไปพบกับใครก่อนจะกลับไปนอนตายที่แฟลต

ซึ่งส่วนตัว ยอมรับว่า หลังจากครอบครัวนำศพลูกชายกลับมาที่วัด สภาพศพของลูกชายแปลกกว่าคนตายปกติ เนื่องจากหน้าตาคล้ำ แต่วันนั้นไม่มีใครสังเกต เพราะทุกคนตกใจและกำลังเสียใจกันอยู่

ส่วนตัวได้ติดตามข่าวของนางแอม ผ่านทางช่อง 8 ทุกวัน ดูจนเก็บมาฝันว่าลูกชายมาหา ซึ่งในความฝันลูกชายมาบอกว่าผมยังไม่ตายนะพ่อ แต่ตื่นมาก็ฝันสลายเนื่องจากมาเห็นหน้าลูกที่ภาพถ่ายหน้างานศพที่ติดไว้ตรงผนังของบ้าน และที่มันน่าดีใจที่สุด คือวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางมารื้อคดีของลูกชาย ซึ่งตัวพ่อเอง คิดอยู่ในใจอยู่แล้วว่าที่ลูกชายมาเข้าฝัน เป็นการมาบอกอะไรสักอย่าง ส่วนตัวยินดีให้ตำรวจรื้อคดีลูกชายขึ้นมาหาความจริง และหากพบว่าลูกชายตาย เพราะถูกวางยา ก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด


เปิดข้อสงสัยครอบครัวของด.ต.ไพรัตน์ เสียชีวิตมีเงื่อนงำ โดยพบว่าด.ต.ไพรัตน์เสียชีวิตกะทันหัน ทั้งที่ร่างกายแข็งแรงดี , ไม่มีการชันสูตรพลิกศพว่าเสียชีวิตด้วยเหตุใด , รวมทั้งตำรวจสั่งห้ามไม่ให้ถ่ายภาพศพห้ามแจ้งนักข่าว หรือ โพสต์ลงเฟซบุ๊ก , รู้จักกับแอม , บัญชีด.ต.ไพรัตน์ยังมีเงินหมุนเวียนเข้าออก ทั้งที่ตายแล้ว

ซึ่งทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลในใบมรณบัตรระบุสาเหตุการตายของด.ต.ไพรัตน์ว่าหัวใจโต

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวช่อง8 ได้ไปพบกับแม่ของด.ต.ไพรัตน์ อายุ 70 ปี บอกว่า ที่สงสัยสาเหตุการตายของลูก ยิ่งมารับรู้ว่า ลูกชายรู้จักกับแอม และรอง ผกก. ที่เป็นเจ้านายของลูกชาย ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด และยังพบอีกว่า บัญชีของลูกชาย 1 บัญชี มีเงินหมนุนเวียนเข้าออก คล้ายกับทำธุรกรรมร่วมกับใครสักคน และถูกถอนเงินออกจากบัญชีไปก่อนตายไม่กี่วัน

ซึ่งวันนี้แม่ ขอยืนยันกับช่อง 8 ว่าทางครอบครัวยินดีให้ตำรวจรื้อฟื้นคดีการตายของลูกชาย และถ้าหากลูกชายตายเพราะเชื่อมโยงกับแอม ตัวแม่เองและทางครอบครัวก็จะไปแจ้งความและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะก่อนที่ลูกชายนอนตายที่แฟลต ไม่รู้ว่าใครเอายามาให้ลูกชายกินก่อนตาย

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวช่อง8 ได้สอบถามภรรยาตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งพักอยู่ในแฟลต และเป็นผู้ที่เห็นศพของด.ต.ไพรัตน์ บอกกับทีมข่าวว่า แอมมีความสนิทสนมกับคนในแฟลต ประมาณ 5 ปี สังสรรค์ร่วมวงกินข้าวแม่บ้าน ในแฟลตตำรวจ และยอมรับว่า ก่อนที่เรื่องจะแดง นางแอม เคยวิ่งยืมเงินคนในแฟลตจริง แต่ไม่มีใครให้ยืม เพราะทุกคนในแฟลต ไม่มีเงิน

โดยในวันที่ด.ต.ไพรัตน์เสียชีวิต สังเกตเห็นแอมไปรพ.รอผลการชันสูตรศพ และอาสาจัดแจงงานศพ ซึ่งด.ต.ไพรัตน์มีร่างกายแข็งแรง

ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวระหว่างนางแอม กับ ด.ต.ไพรัตน์ ยืนยันว่าตัวเองไม่รู้ว่าเขาทำธุรกิจ อะไรด้วยกันหรือไม่ ซึ่งเรื่องบัญชีที่พบการเคลื่อนไหว อาจะเป็นบัญชีที่ ด.ต.ไพรัตน์ เปิดเอาไว้ให้บุคคลหนึ่งไว้ใช้ทำอะไรสักอย่าง และต้องรอให้ทางตำรวจไปตรวจสอบอย่างละเอียดว่า คนที่โอนเงินเข้ามาและถอนเงินออกไปจากบัญชีของ ด.ต.ไพรัตน์ เป็นใคร หรือมีความเชื่อมโยงยังไงกับแอมหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ตนเองในฐานะที่สามีเป็นตำรวจรุ่นเดียวกันกับ ด.ต.ไพรัตน์ ขอยืนยันว่า ก่อนที่ ด.ต.ไพรัตน์ จะตาย ด.ต.ไพรัตน์ เป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรงดี โดยไม่ได้มีโรคประจำตัวอื่นๆที่จะทำให้ตายกะทันหัน นอกจากปวดแขนปวดขา ที่เกิดจากการเป็นโรคเก๊าต์เท่านั้น