แม่จีจี้เคาะโลงเรียกจีจี้กินข้าวให้อิ่ม จะได้พักผ่อนให้สบาย เผยแชตแม่ถามจีจี้ด้วยความเป็นห่วงหลังลูกสาวไม่ตอบ

ทีมข่าวได้รับภาพจากกล้องวงจรปิดภายในคอนโดที่เกิดเหตุของวันที่ 18 เมษายน 2566 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะพบร่างของทั้ง 2 คน โดยกล้องวงจรปิด จับภาพ "จีจี้" เดินลงจากชั้น 14 ไปรับ "อิคคิว" เนื่องจากว่า #อิคคิว ขึ้นมาบนห้องเองไม่ได้ เพราะไม่มีคีย์การ์ดและไม่มีลายนิ้วมือ ที่จะสแกนผ่านเข้า-ออก ซึ่งแม่ของน้องได้เห็นภาพก็ยืนยันว่าน่าจะเป็นช่วงเวลาที่เดินเข้าคอนโดและทั้งคู่ยังไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันเพราะถ้าหากทะเลาะกันแล้ว จีจี้ก็จะไม่มีทางที่จะลงมาเปิดประตูให้อย่างแน่นอน

วันนี้ทีมข่าวเดินทางไปที่วัดพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนางสาวสุพิชชา ปรีดาเจริญ หรือ จีจี้ อายุ 19 ปี ซึ่งแม่และพ่อของน้อง เปิดศาลาตั้งศพให้กับทีมข่าวดูเพื่อให้เห็นว่าครอบครัวของน้องอิคคิวได้ส่งพวงหรีด มาร่วมแสดงความเสียใจให้กับศพของน้องจีจี้ด้วย โดยข้อความบนพวงหรีดเขียนบอกว่า "ด้วยความเสียใจอย่างยิ่ง ครอบครัวของอิคคิว" ซึ่งนอกเหนือจากจะเป็นพวงหรีดของอีกคิวแล้วยังมีพวงหรีดของบุคคลต่างๆ รวมไปถึงบริษัทเครื่องสำอางและบริษัทหนังที่น้องจีจี้เคยร่วมงานมาแสดงความเสียใจด้วย 

โดยวันนี้แม่ของน้องจีจี้ นำแชตข้อความที่ส่งหากันทางแอพพลิเคชั่น LINE มอบให้กับทีมข่าวดู ถึงการพูดคุยกันของตัวเองกับลูกสาวเรื่องของน้องจีจี้ที่ต้องการจะทำผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของตัวเอง โดยจะออกผลิตภัณฑ์ช่วงประมาณเดือนมิถุนายนจึงปรึกษาแม่และเกิดความเครียดแต่ก็ยืนยันกับแม่ว่าจะทำให้ได้และไม่อยากให้แม่เป็นห่วง ซึ่งแม่ยังแค่แนะนำช่องทางในการขายและสัญญากับลูกว่าถ้าหากออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่แล้วตัวเองกับน้องจะพากันไปช่วยแพ็คสินค้าส่ง แต่สุดท้ายน้องจีจี้ก็ต้องมาเสียชีวิต

รวมถึงที่ส่งหาลูกสาวในวันที่ไปเจอศพลูก โดยเป็นข้อความที่แม่ส่งข้อความหาจีจี้ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน ว่าให้อิคคิวโทรกลับหาพ่อด้วยเพราะพ่อเค้าตามหา แต่ก็ไม่มีการอ่านข้อความและไม่มีการโทรกลับจนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 01.20 นาที แม่จะได้ส่งข้อความหาจีจี้อีกครั้ง สอบถามว่าลูกสาวเป็นอะไรหรือไม่เพราะติดต่อไม่ได้เลย และอยากให้ลูกสาวโทรกลับ จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 7 โมงกว่าก็ยังส่งข้อความหาลูกสาวอยู่ ถามว่าจีจี้เป็นอะไรทำไมไม่โทรกลับ และกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 11 โมงครึ่ง คุณแม่ยังส่งข้อความไปขอร้องให้จีจี้ ติดต่อแม่กลับอีกด้วยแต่สุดท้ายก็ไม่มีการเปิดอ่านและไม่มีการตอบกลับมา จนกระทั่งแม่เดินทางไปเจอศพที่คอนโดเอง

แม่ของน้องจีจี้ ยืนยันว่าตัวเองเป็นคนเห็นศพลูกคนแรก ซึ่งตอนที่เดินทางไปนั้น เดินทางไปกัน 3 คนพร้อมกับเพื่อนและน้องสาวของจีจี้ แต่ตนเองเป็นคนเข้าไปในห้องเพียงคนเดียว เมื่อเปิดประตูเข้าไปปรากฏว่าภาพที่เห็นคือน้องจีจี้ลูกสาวของตนนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตโดยมีเลือดออกบริเวณศีรษะ ขณะที่อิคคิวแฟนของจีจี้ นอนหงายเสียชีวิตมีเลือดออกจากทางปากและจมูก จังหวะนั้น ตนเองตกใจมาก ตะโกนกรีดร้อง ก่อนวิ่งออกมาตั้งสติหน้าห้อง ซึ่งนาทีนั้นแน่ใจว่าลูกสาวเสียชีวิตไปแล้วอย่างแน่นอน เนื่องจากนอนแน่นิ่งทั้งคู่ แต่ว่าตนเองไม่กล้าไปแตะศพเพราะเกรงว่าจะกระทบต่อคดี และไม่กล้าถ่ายภาพลูกสาว เนื่องจากไม่อยากเก็บภาพที่น่าสลดไว้ในโทรศัพท์ จากนั้นเพื่อนของจีจี้ได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจและกู้ภัย หลังจากผ่านไป 10 นาที มีตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุและกันญาติให้ออกจากพื้นที่ ซึ่งหลังจากนั้นตนเองก็ไม่เห็นความเคลื่อนไหวภายในห้องอีกแล้ว โดยมีตำรวจและกู้ภัยมาดำเนินการเรื่องศพ

โดยหลังจากที่ตนได้ติดตามข่าวสาร เห็นคอมเมนต์ในโซเชียลที่สังคมเข้าไปโจมตีครอบครัวของอิคคิว และมีการตั้งข้อสังเกตว่าตายทิพย์หรือไม่ ตนเองขอยืนยันว่าอิคคิวตายจริง เพราะตนเองเป็นคนเห็นศพมากับตา อีกทั้งในตอนนั้นหลังจากพบศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายแล้ว ตนเองยังได้โทรศัพท์ไปบอกแม่ของอิคคิวซึ่งแม่ของอิคคิวนั้นก็อยู่ในอาการตกใจและกรีดร้องออกมาด้วยความเสียใจ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองก็มองว่าสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย

ทั้งนี้ ภายหลังจากเกิดเหตุ แม่ของอิคคิวได้โทรศัพท์ติดต่อมาแสดงความห่วงใย และแสดงเจตจำนงจะขอเยียวยาครอบครัว แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องนั้น เบื้องต้นทางด้านครอบครัวของอิคคิวได้ส่งพวงหรีดมาที่งานศพ โดยส่งมาเมื่อคืนนี้ ซึ่งทางด้านของแม่อิคคิวเองก็มีการโทรศัพท์มาแจ้งล่วงหน้าเเล้ว ว่าจะส่งพวงหรีดมา ซึ่งในครอบครัวของตนก็มีการส่งพวงหรีดไปแสดงความไว้อาลัยกับอิคคิวเช่นกัน

ทีมข่าวถามถึงกรณีแชตข้อความที่มีการกล่าวอ้าง ว่าเป็นแชตของพ่ออิคคิว เรื่องการสอนลูก เกี่ยวกับการเลือกผู้หญิงที่จะมาแต่งงานด้วยต้องไม่เคยผ่านมือชายอื่นมาก่อนนั้น ขอยืนยันว่าแชตดังกล่าวเป็นแชตของพ่ออิคคิวจริง เนื่องจากลูกสาวเคยส่งแชตนี้ให้ตนเองดูหลังจากเลิกกับอิคคิว ส่วนตัวเข้าใจพ่อของอิคคิว ในเรื่องที่มีความคิดแบบโบราณเพราะตัวเขาเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ก็ได้เตือนลูกสาวไปว่า "ในเมื่อครอบครัวเขาไม่ต้อนรับเราแล้ว ก็ควรจะเลิกขาดจากกัน" แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะกลับมาคบกันอีก เเละก่อนหน้านี้ตนเองยังเคยไปตรวจดวงชะตากับหมอดู และได้ถามหมอดูเกี่ยวกับลูกสาว ในช่วงที่ทั้งคู่กำลังมีปัญหากันว่าจะมีโอกาสเลิกขาดจากกันหรือไม่ ซึ่งหมอดูบอกว่าในช่วง 8-9 เดือน ก่อนวันเกิดของน้องจีจี้ (วันเกิด 2 พ.ค.) ดวงชะตาของทั้งคู่จะยังไม่เลิกขาดจากกัน แต่สุดท้ายน้องจีจี้เลิกกับแฟนหนุ่มก่อน ทำให้แม่เกิดความชะล่าใจ และกลับมาคบกันใหม่ช่วงสงกรานต์

คุณแม่ยังบอกอีกว่า ในช่วงที่มีปัญหากับอิคคิว ลูกสาวเคยเล่าให้ฟังว่าถูกอิคคิวทำร้ายร่างกายด้วยการทุบตี 2 - 3 ครั้ง โดย 1 ในนั้น เมื่อปีที่แล้ว ลูกสาวเล่าให้ฟังว่าโดนอิคคิวเอาปืนจ่อศีรษะในบ้านของอิคคิว แต่เชื่อว่าเหตุการณ์นี้คนในครอบครัวของอิคคิวคงไม่เห็น เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าว มีห้องส่วนตัวของแต่ละคน