ฮีทสโตรกคร่าชีวิต "ผู้หมวดป้ายแดง" ออกไปโบกรถตั้งแต่เช้า ปวดหัวกลับถึงห้องล้มตึงทั้งเครื่องแบบ ต่อหน้าลูกชายเด็กพิเศษ

เมื่อเวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่แฟลตตำรวจสภ.บางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นห้องพักชั้นที่ 4 ของแฟรต หลังจากที่ได้รับแจ้งว่ามี ร.ต.ต. ท่านหนึ่ง เกิดอาการฮีทสโตรกจนช็อกหมดสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อช่วงสายของวันที่ 14 เม.ย. 66 โดยทีมข่าวเราไปพูดคุยกับ ด.ต.มงคล ศรีสุภา ผบ.หมู่ งานจราจร สภ.บางบ่อ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานและเป็นคนที่เข้าไปพยามช่วยร้อยตำรวจตรีท่านนี้

ดาบตำรวจมงคล เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า คนตาย คือ ร.ต.ต.พิเศษ ดาวเรือง ตำแหน่งปัจจุบันเป็นรองสว.จร.สภ.บางบ่อ ในช่วงเช้าวันนี้ หมวดพิเศษและตนเองได้เข้าเวรจราจรและทำหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจรบริเวณสามแยกบางบ่อ ช่วงปฎิบัติหน้าที่ ก็ยังคงโบกรถกันตามปกติ กระทั่งช่วงหลังแปดโมงกาศเริ่มร้อนอบอ้าวมากขึ้น ไม่นานหมวดพิเศษ มาบอกกับตนเองว่า เกิดอาการอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ เนื่องจากอากาศร้อน จึงได้เข้ามาพักในตู้จราจร บริเวณสามแยกบางบ่อ ต่อมา ด.ต.มงคล ศรีสุภา เพื่อนร่วมงาน จึงได้สอบถามถึงอาการของผู้ตาย และจะพาไปโรงพยาบาล แต่ผู้ตายบอกว่าไม่ไปโรงพยาบาล และห่วงลูกชายที่เป้นเด็กพิเศษ พักอยู่ในห้องเพียงคนเดียว จึงขอกลับไปพักที่ห้อง ด.ต.มงคลฯ จึงได้พาผู้ตายไปยังบ้านพัก พอถึงก็แยกย้าย ตนเองพักอยู่ชั้นสอง ส่วนหมวดพิเศษพักที่ชั้น 4 ตอนแรกก็ไม่ได้เอะใจอะไร ให้หลังประมาณ 10 นาที มีตำรวจรุ่นน้องวิ่งลงมาเรียกบอกว่าหมวดพิเศษหมดสติคว่ำหน้าที่หน้าห้องพัก จึงรีบขึ้นมาดูพบว่าลูกชายที่ป่วยเป็นเด็กพิเศษกำลังนั่งเขย่าตัวเรียกพ่อให้ตื่นพอจับตัวพลิกหงายมาพบว่าหน้าเริ่มเขียวแล้ว จึงช่วยกันปั๊มหัวใจและโทรเรียกรถพยาบาล ไปถึงโรงพยาบาลแพทย์พยามกระตุ้นหัวใจและพยามช่วยสุดความสามารถสุดท้ายเสียชีวิตอย่างสงบ ท่ามกลางความตกใจของเพื่อนร่วมงานและข้าราชการตำรวจในโรงพัก โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชา เพราะหมดพิเศษ ถือเป็นตำรวจน้ำดีที่ขยันและอยู่โรงพักแห่งนี้ตั้งแต่เรียนจบมาใหม่ๆ จึงกลายเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา

ดาบตำรวจมงคล เล่าทั้งน้ำตาว่าสำหรับ ร.ต.ต. พิเศษ ดาวเรือง คนนี้ แกเพิ่งจะติดยศ ร.ต.ต. ใหม่ๆ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 66 ที่ผ่านมานี้เอง หลังจากเรียนจบ นพต.รุ่น 43 โรงเรียนนครปฐม 7 ก็มารับราชการตำรวจที่สถานีตำรวจภูธรบางบ่อที่เดียว รวมอายุราชการแล้วเกือบ 40 ปี ปกตินิสัยใจคอหมดพิเศษ จะเป็นคนที่รักเพื่อนร่วมงาน เป็นคนขยันและจริงจังกับงานค่อนข้างมาก ตลอดชีวิตที่เป็นตำรวจมา หมวดพิเศษ จะไม่เคยเป็นคนที่ให้ร้ายหรือว่าร้ายกับใคร ไม่ว่าตำรวจหรือประชาชน

ปัจจุบันหมวดพิเศษ แต่งงานมีครอบครัวแต่แยกกันอยู่กับภรรยา และมีบุตรชายอายุ 21ปี ซึ่งเป็นเด็กพิเศษ ที่ผ่านมาจะนำลูกไปฝากให้คุณแม่ เลี้ยงดูที่บ้านเกิดในจังหวัดชัยภูมิ มาปีนี้บุตรชายต้องเกณฑ์ทหารและต้องนำตัวตนมายืนยันกับเจ้าหน้าที่ประจำกองคัดเลือกทหาร หมวดจึงเดินทางไปรับบุตรชายมาอยู่ด้วยและตั้งใจว่าจะกลับไปส่งหลังสงกรานต์ ที่ผ่านมา หมวดพิเศษ มักบ่นว่าอยากกลับไปรับราชการที่บ้านเกิดในจังหวัดชัยภูมิ เพื่อดูแลมารดาและลูกชาย แต่ทำเรื่องขอย้ายมาแล้วหลายปี แต่ก็ไม่ได้รับการพิจารณากระทั่งมาเกิดเหตุเศร้าในครั้งนี้

ด้าน พ.ต.ท.ทะนงศักดิ์ แวงวรรณ สารวัตรจราจรสภ.บางบ่อ ในฐานะผู้บังคับบัญชาในสายงาน ออกมาเปิดใจว่า ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องกับหมวดพิเศษ เพราะแกมาเข้าเวรอำนวยความสะดวกตามปกติและยังถ่ายรูปทำรายงานการปฎิบัติให้กับผู้บังคับบัญชาตรวจสอบ กระทั่งมาทราบเรื่องอีกครั้งช่วงสาย ซึ่งยอมรับว่าตกใจและเสียใจกับการสูญเสียหมวดพิเศษไป เพราะถือว่าเป็นนายตำรวจเก่าแก่ของสภ.บางบ่อ ส่วนเรื่องที่นายหมวดพิเศษ ทำเรื่องขอย้ายกลับบ้านเกิดนั้น เป็นความจริง มีการทำเรื่องเสนอขึ้นมาแล้วสองถึงสามครั้งแต่ก็ยังไม่ได้รับการพิจารณา ในขณะที่การช่วยเหลือทางครอบครัว ตำรวจสภ.บางบ่อ และผู้บังคับการตำรวจภะรจังหวัดสมุทรปราการ ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพในการรับศพและตั้งบำเพ็ญกุศลตลอดจนฌาปนกิจ เนื่องจากปัจจุบันทางครอบครัว มีเพียงมารดาของหมวดพิเศษ ที่ยังคงอยู่บ้านเกิดและแก่ชรา อีกทั้งหมวดพิเศษจะเป็นเสาหลักของครอบครัว แต่พอจากไปก็ไม่มีใครที่จะเข้ามาดูแลจัดงานศพให้ จึงร่วมงานจัดงานให้สมเกียรติของตำรวจที่เสียชีวิตกะทันหันในขณะปฎิบัติหน้าที่ ส่วนเรื่องเสนอความช่วยเหลือทางครอบครัวไปยังสตช.นั้นอยู่ระหว่างดำเนินการ