ค้นบ้านย่านบางบัวทอง เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวีทุจริตเรียกรับสินบน ผงะพบเงิน 6.9 ล้านซุกรถ

วันที่ 5 เม.ย. 2566 พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พร้อมด้วยนายสุภาพ ศิริ ผู้อำนวยการกองอำนวยการต่อต้านการทุจริต สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพัก ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนายประมวล เจ้าหนาที่สำนักงานเขตราชเทวี ผู้ต้องหาในคดีเรียกรับสินบนเพื่อเลี่ยงจ่ายภาษี ที่เพิ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. จับกุมตัวเมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) เพื่อค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม

จากการตรวจค้นพบบ้านหลังดังกล่าวมีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว และรถยนต์ Lexus สีขาว จอดอยู่ภายในโรงรถของตัวบ้าน ซึ่งจากการตรวจค้นภายในบ้านพบพระเครื่องและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในการทุจริตจำนวนมาก นอกจากนี้จากการตรวจค้นภายในรถ Toyota Fortuner สีขาว ยังพบว่ามีการซุกซ่อนเงินสดจำนวน 6,900,000 บาท อยู่ภายในรถ จึงตรวจยึดไว้ตรวจสอบ

กรณีตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วม ป.ป.ช.และ ป.ป.ท. รวบ เจ้าพนักงานเขตราชเทวี เรียกรับผลประโยชน์ 3.2 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานสำหรับการจัดการในครั้งนี้ กรณีดังกล่าวที่ผ่านมาให้ความสำคัญ และยอมรับว่าก่อนหน้านี้ได้รับการประสานร้องเรียนจากบริษัทนี้เข้ามาเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ว่ามีการเรียกรับเงิน จากเจ้าพนักงานเขตราชเทวี ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายรายได้ของเขตฯ

หลังรับเรื่องร้องเรียน ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ดำเนินการทันที เพียงแต่ตอนนั้นยังไม่มีพยานหลักฐานที่จะดำเนินการกับทางบุคคลที่เกี่ยวข้องได้ในทันที อีกทั้งหากจะแก้ปัญหาโดยการย้ายไปอยู่อีกสำนักงานเขต จะถือเป็นไปสร้างวัฒนธรรมที่ไม่ดีอีกที่หนึ่ง เพราะก็คงกลับไปทำเรื่องดังกล่าวอีก อีกทั้ง กทม. ไม่มีอำนาจดำเนินการทางคดีอาญาจึงจำเป็นต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่อาทิ ป.ป.ป. ,ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบและสืบสวนในเรื่องดังกล่าว

กระทั่ง เมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) มีการดำเนินการเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นความลับ ไม่ได้มีการแจ้ง กทม. ล่วงหน้าแต่อย่างใด กทม.จึงไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ดังนั้นในกรณีนี้จะมีบุคคลอื่นในสำนักงานฯ หรือในกทม. ตลอดจนผู้บังคับบัญชาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ตนให้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ป.

ซึ่งการดำเนินการทางวินัยของ กทม. มีขั้นตอน คือจะให้ปลัดกรุงเทพมหานครตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบทางวินัยร้ายแรงแล้ว และจะมีการโยกย้ายเข้ามายังสำนักปลัดกรุงเทพมหานคร โดยให้มาอยู่ในการสงวนตำแหน่งว่างเพื่อย้ายข้าราชการกรุงเทพมหานคร ตำแหน่งสามัญ 20 ตำแหน่ง สำหรับบุคคลที่มีพฤติกรรมทุจริตในระหว่างที่รอการตรวจสอบโดยไม่ได้รับเงินเดือน ขณะเดียวกันเรื่องการทุจริตการจัดเก็บรายได้พบเป็นครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้พบแต่การทุจริตในฝ่ายโยธามากกว่า

ทั้งนี้ ตั้งแต่รับเลือกเป็นผู้ว่าราชการฯ มา ได้มีการกำชับเรื่องนี้ โดยเฉพาะสำนักงานเขตราชเทวี เป็นหนึ่งในสำนักงานที่มีการตักเตือนเรื่องการทุจริตภายในองค์กร เนื่องจากว่าไม่ได้มีผลกระทบเพียงผู้กระทำเพียงคนเดียว แต่ยังกระทบต่อองค์กร และเดือดร้อนถึงบุคคลในครอบครัว ซึ่งเรื่องแบบนี้ตนสงสารคนในครอบครัวมากกว่าผู้กระทำผิด

ส่วนเรื่องดังกล่าว เป็นเหตุให้เขตราชเทวีจัดเก็บภาษีได้น้อยไม่ติดอันดับ 1 ใน 4 หรือไม่นั้น นายชัชชาติกล่าวว่า ต้องกลับไปตรวจสอบอีกครั้ง เนื่องจากเป็นพื้นที่ในเมือง พื้นที่เต็มหมดแล้วไม่มีการก่อสร้างอาคารใหม่เกิดขึ้น ดังนั้นการจัดเก็บภาษีจึงเป็นเรตของอาคารเก่า แต่เพื่อความชัดเจนคงต้องเข้าไปดำเนินการตรวจสอบในเรื่องนี้ด้วย

นายชัชชาติ ฝากเตือนไปยังสำนักงานเขตพื้นที่อื่น ๆ ว่า กทม.เอาจริงเอาจังในการปราบปรามทุจริตเคสนี้จึงเป็นเคสตัวอย่าง ไม่ถึงกับการเชือดไก่ให้ลิงดู แต่อยากให้ข้าราชการทุกคน ตระหนักว่า “ต้องมือสะอาด”