ผบช.ภ.7 แถลงข่าว จับขบวนการลักลอบขนยาไอซ์มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท คาด่านตรวจชะอำ จ.เพชรบุรี

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 มีนาคม 2566 ที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรชะอำ จ.เพชรบุรี พล.ต.ต.ธนายุติม์ วุฒิจรัสธรรมรงค์ ผบช.ภ.7 นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รอง ผวจ.เพชรบุรี พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.ชะอำ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมนายนิวัฒน์ บุญเรือง ประทุมดวง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 ม.15 ต.ปางมะค่า อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร นายอ๊ะหมัด บังคม อายุ 35 ปี นายริดูวาน บูแล อายุ 22 ปี น.ส.ซารีนา โต๊ะนอ อายุ 44 ปี น.ส.นอรีชา บูละ อายุ 34 ปี และ น.ส.กอมีละ แวหะมะ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันลักลอบขนยาเสพพร้อมของกลางยาไอซ์ 2 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 100 ก.ก. มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท รถยนต์กะบะตู้ทึบยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่นโคโลราโด สีขาว หมายเลขทะเบียน ฒว.2737 กรุงเทพฯ 1 คัน และรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่ หมายเลขทะเบียน 2 กผ 8721 กรุงเทพฯ 1

พล.ต.ต.ธนายุติม์ กล่าวว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญาวกรรมและตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายที่บริเวณตู้ยามนิคม ถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ได้มีรถยนต์กระบะตู้ทึกคันดังกล่าววิ่งผ่านมาจึงเรียกให้หยุดพบมีนายนิวัฒน์ เป็นผู้ขับขี่และมีท่าท่าพิรุธจึงทำการตรวจค้น พบยาไอซ์ชนิดเกล็ดสีขาวบรรจุซองห่อชาสีเหลือง-เขียว รวมจำนวน 100 ห่อ นำหนักห่อละประมาณ 1 กิโลกรัม ซุกซ้อนในกระสอบปุ๋ยสีรุ้ง จำนวน 2 ถุง ที่ปะปนกับถุงพลาสติกบรรจุผ้าอื้นๆอยู่ในตู้ทึบ

สอบสวนนายนิวัฒน์ รับสารภาพว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม 5 คน ให้ไปรับยาไอซ์จากโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อไปส่งให้นายแบที่ จ.นราธิวาส ในราคาค่าจ้าง 12000 บาท หลังจากทั้ง 5 คน ได้ช่วยขนยาไอซ์ซุกจำนวน 2 ถุงปุ๋ยซุกซ่อนปะปนกับถุงป๋ยบรรจุเสื้อผ้าในตู้ทึบเสร็จแล้วตนได้ขับรถยนต์มุ่งหน้าไปส่งยังจุดนัดหมายกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดังกล่าว

พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าว่าหากยาไอช์จำนวน 100 กิโลกรัมนี้เล็ดลอดผ่านไปได้จะมีมูลค่ากว่า100 ล้านบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาไอซ์ โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าโดยผิดกฎหมาย จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป