ผงะ! คนในบ้านของอุสตาซ จ.ปัตตานี ตามหาแมว ใช้ไฟฉายส่องดูใต้ท้องรถ พบวัตถุต้องสังสัย แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุดินระเบิดในถังดับเพลิง

วันที่ 12 มี.ค. 2566 พ.ต.อ.สืบสกุล มณีนวล ผู้กำกับการ สภ.มายอ จ.ปัตตานี ได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ หลังช่วงค่ำวานนี้ได้รับแจ้งว่า พบวัตถุต้องสงสัยผูกติดอยู่ใต้ท้องรถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีขาว ซึ่งจอดไว้ในโรงจอดรถของบ้านพัก ต.ถนน อ.มายอ โดยเมื่อวานนี้ได้นำกำลังไปที่เกิดเหตุทันที พบว่า วัตถุต้องสงสัยคล้ายถังดับเพลิ จึงได้ให้คนที่อยู่ภายในบ้านออกมาพร้อมกับกั้นเชือกไว้ ห้ามบุคคลอื่นเข้าไปในรัศมี 200 เมตร แต่ด้วยเวลาที่รับแจ้งเป็นช่วงกลางคืน และเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ในการทำงาน จึงได้เข้าตรวจสอบพิสูจน์ทราบในช่วงเช้า



หลังชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบพบว่า วัตถุดังกล่าวเป็นถังดับเพลิงขนาดเล็กสีแดง ผูกติดไว้กับคัสซีรถตรงกลาง จึงได้กันพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมกับเข้าไปเก็บกู้ออกมา พบเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุดินระเบิดในถังดับเพลิง จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ด้าน พ.ต.อ.สืบสกุล เปิดเผยว่า รถคันดังกล่าวเป็นของนายสายูตี หะยีตาเห อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน และมีตำแหน่งเป็นรองผู้รับใบอนุญาตและอุสตาซ (ครูสอนศาสนา) โรงเรียนวัฒนธรรมอิสลาม อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี โดยก่อนที่จะพบระเบิดนั้น ทราบว่า ลูกสาวได้ขับรถคันดังกล่าวออกไปธุระนอกบ้านก่อนที่จะขับกลับมาจอดในโรงจอดรถ จนกระทั่งช่วงเวลาเกิดเหตุ คนในบ้านได้ออกมาตามหาแมวโดยใช้ไฟฉายส่องใต้ท้องรถ ปรากฏว่าเห็นวัตถุต้องสงสัยผูกติดไว้ จึงตกใจแล้วรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ และจากการเก็บกู้พบว่า ระเบิดได้เชื่อมวงจรพร้อมที่จะทำงาน ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายน่าจะกดจุดชนวนแล้วแต่ระเบิดไม่ทำงาน เนื่องจากวงจรที่เป็นไฟฟ้าได้หลุดออก เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายหวังที่จะทำร้ายนายสายูตี โดยนำระเบิดมาผูกไว้ขณะที่จอดรถในบ้าน เมื่อขับรถออกจากบ้านคนร้ายพยายามกดชนวนแต่ระเบิดไม่ทำงาน ทั้งนี้เนื่องจากว่านายสายูตี เป็นบุคคลที่ประสานงานกับภาครัฐมาโดยตลอด จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นเป้าหมายของกลุ่มก่อความไม่สงบ หวังก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้รวบรวมวัตถุพยานทั้งหมดให้กับชุดพิสูจน์หลักฐานเพื่อนำไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อหาความเชื่อมโยงว่าเป็นบุคคลกลุ่มไหนที่ก่อเหตุครั้งนี้ พร้อมทั้งได้กำชับให้ชุดสืบสวนสอบสวนเร่งตรวจสอบพยานหลักฐานอื่นๆ โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดทุกจุด เชื่อว่าน่าจะเห็นหรือรู้ความเคลื่อนไหวของคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้