นายจ้างสาวได้นาฬิกาหรู "ปาเต๊ะ" มูลค่ากว่า 2 ล้านบาทคืนแล้ว ฝีมือคนใน ยอมนำมาคืนอ้างมีภาระหนี้สิน ลูกหลายคน นายจ้างสาวยังเมตตาไม่อยากเอาเรื่อง แค่ไล่ออก

จากกรณีวันที่ 4 มีนาคม 2566 นางสาวฐิติมา หรือเป้ อายุ 38 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี ว่านาฬิกายี่ห้อ Patek มูลค่า 2.1 ล้านบาท หายไปอย่างไร้ร่องรอยภายในบ้านของตัวเอง ขณะกำลังเตรียมส่งให้ช่างตรวจเช็กสภาพ จึงนำตัว น.ส.หนึ่ง น.ส.แพท พี่เลี้ยงที่ดูแลลูกชายของตนเองภายในบ้าน และนายธเนศ หรือนัส อายุ 27 ปีแมสเซนเจอร์ที่รับหน้าที่วิ่งงานให้กับตนเองมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้สอบปากคำ และสืบหาว่าใครเป็นคนนำนาฬิกาปาเต๊ะของตนเองไป

ล่าสุดวันนี้ 6 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนางสาวฐิติมา เจ้าของนาฬิกาปาเต๊ะว่า เบื้องต้นตนได้นาฬิกาคืนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตนก็ไม่ได้ติดใจเอาความตามที่พูดไว้ ส่วนรายละเอียดอย่างอื่นต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนจัดการต่อ ตนไม่อยากจะพูดอะไร คนที่ขโมยไปก็เข้ามาขอโทษ ตนจึงไม่ตั้งใจเอาความ คนที่ขโมยไปเขายอมรับว่าทำไปเพราะคิดสั้น เพราะมีภาระหนี้สิ้น จึงหน้ามืดตามัวไม่รู้จะไปหาทางออกที่ไหน จึงขโมยนาฬิกาไป การที่ตนไม่เอาเรื่องไม่ดำเนินคดีเพราะว่าตนอยากให้โอกาสเพราะเป็นคนใกล้ตัว ไม่อยากให้เขาติดคดีไม่อยากทำให้ประวัติเสีย ในอนาคตอาจจะส่งผลเสียกับชีวิตเขา เพราะเขามีลูกหลายคนที่ต้องเลี้ยงดู ซึ่งตนอยู่กับเขามานาน ช่วยเหลือกันบ่อย แต่ก็ไม่ควรทำแบบนี้ แต่ในเมื่อขโมยไปแล้วเอามาคืน ก็ต้องขอขอบคุณที่ได้ของคืน หลังจากนี้ไม่ติดใจเอาความขอจบด้วยดี ตอนนี้ตนได้ไล่เขาออกแล้ว เพราะก่อนหน้านี้เขาทำงานเป็นพี่เลี้ยงลูกตน ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์คล้ายกันแล้ว ตนจึงตัดจบก่อนจะมีเรื่องอื่นเข้ามาอีก หลังจากนี้จะระวัง ใช้แต่พี่เลี้ยงคนเดิม และจะตรวจสอบประวัติให้ดีกว่านี้ เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้น

ด้าน น.ส.หนึ่ง พี่เลี้ยง กล่าวว่า ตอนนี้ตนรู้สึกโล่งใจมากเพราะตอนที่ของหาย ตนรู้สึกว่าตนเป็นผู้ต้องสงสัย รู้สึกไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะหลักฐานคนร้ายมุ่งเป้ามาให้ตนเป็นคนผิด ปกติเวลาตนรับส่งของให้คุณเป้จะไม่เคยเช็ก และไม่เคยมีปัญหา ไม่เคยมีของหายแม้แต่ชิ้นเดียว ตอนที่ของหายกลับมีตัวละครเพิ่มมาอีก 1 คน ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นใคร แต่เขาก็ปฏิเสธและว่าความมุ่งเป้ามาที่ตน โดยตอนเกิดเหตุให้ตนไปเข้าเวรแทน ตนจึงกลับไปทบทวนว่าสิ่งที่เขาพูดมันผิดจากที่เขาพูดกับคนอื่น และผิดที่พูดกับคุณเป้ เพราะเขาขอตัวกลับบ้านอ้างว่าญาติเสีย ตนก็พยายามหาหลักฐาน เพราะไม่อยากตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะเวลาเราจะไปทำงานที่อื่นจะลำบาก ซึ่งถ้าไม่ได้ของคืนจะต้องถูกไล่ออกทั้งหมด แต่ได้ของคืนแล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้น มีความสุขที่จะทำงานกับเจ้านายต่อไป ตนจึงอยากจะฝากถึงคนอื่นที่จะไปทำงานในบ้านเจ้านายว่าจะต้องมีวุฒิภาวะในการคิดว่าทำอะไรลงไป และจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าทำลงไปแล้วจะมาขอความเห็นใจมาอ้างว่าลูกหลายคนหรือภาระเยอะไม่มีทางออก ตนมองว่าไม่ถูกต้อง

ตนจึงอยากขอพบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับคนร้ายได้รวดเร็ว ขอบคุณที่ช่วยตามเรื่อง เพราะตนก็ไม่อยากให้เรื่องยืดยาว เพราะนาฬิกาหายไปอาจจะถูกขายไปแล้ว ตำรวจทำงานรวดเร็วมาก และต้องขอบคุณสื่อที่ช่วยกระจายข่าวให้ที่ทำให้คนร้ายออกมามอบตัว เพราะคนอื่นเขาเดือดร้อน อย่าไปทำแบบนี้กับคนอื่น