สะเทือนใจ! ปู่เลี้ยงหื่นขืนใจเด็กหญิง 13 ปีต่อเนื่องกว่า 4 เดือน เด็กเผยเคยเล่าให้แม่ฟัง แม่บอกให้ทนยอม

ที่ สภ.บางปลาม้า  จ.สุพรรณบุรี  เมื่อเวลา  09.00 น. วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ. มาโนช  จันทร์เที่ยง  ผกก.สภ.บางปลาม้า สั่งการให้ พ.ต.ท.นิยม  แตงโสภา  รอง ผกก.สอบสวน เชิญตัว น.ส.สวย  (นามสมมุติ) อายุ 50 ปีมารดา ของน้องเอ นามสมมุติ วัย 13 ปี เข้ามาให้ข้อมูลหลังลูกสาวโดนปู่  (เป็นพ่อของพ่อเลี้ยง) ข่มขืนกระทำชำเรา  โดยมีการก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดเด็กทนไม่ไหวเล่าให้เพื่อนฟัง  และเพื่อนมาเล่าให้ผู้ปกครองทราบกระทั่ง ผู้ปกครองมาปรึกษานายจ้าง คือ นายสถาพร  เจ้าของธุรกิจพื้นผนังคอนกรีตเบา ทราบหลังจากเรื่องนายสถาพร ไม่นิ่งนอนใจ  รีบพาเด็กและแม่เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับปู่ (เป็นพ่อของพ่อเลี้ยง)  ที่กระทำการล่วงละเมิดทางเพศเด็กสาว มาดำเนินคดี หลังรับแจ้งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบางปลาม้า ไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนน้องเอ อายุ 13 ปี กล่าวว่าเมื่อคืนวันที่ 4 ก.พ.ได้มาอยู่ที่บ้านเพื่อน และตอนตี 5 ปู่ (พ่อของพ่อเลี้ยง) ขับรถกระบะมาตามหาที่บ้านเพื่อนเพื่อให้กลับบ้าน และถามว่าจะเลือกใครระหว่างเขากับคนใหม่ น้องเอบอกเขาไปว่าถ้าเลือกปู่ (พ่อของพ่อเลี้ยง) ก็ไม่ยอมรับอยู่ดี แล้วถ้าไปกับคนใหม่เขาก็จะโกรธ  เขาก็บอกว่าถ้าไปกับคนใหม่เขาไม่โกธรขอให้พูดตามตรง พอน้องเอพูดไปเขาก็กระชากผมไปตบทันทีพร้อมกับลากน้องเอขึ้นรถกระบะออกไป จากบ้านเพื่อน โดยมีพ่อของเพื่อนคอยห้ามแตผู้เป็นปู่ไม่ฟังจากนั้นได้พาน้องเอไปข่มขืนที่เขต จังหวัดอ่างทอง 2 รอบ ก่อนจะพากลับมาส่งที่บ้าน

ที่ทำร้ายร่างกายเขาทำเป็นครั้งแรก แต่ที่ข่มขื่นเขาเริ่มมาตั้งแต่ วันที่ 20 ต.ค. 65 ก่อนหน้านั้นพ่อเลี้ยงเคยลวนลามแต่แม่จับได้พ่อเลี้ยงจึงเลิกยุ่งกับน้องเอ เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 65 ปู่ (พ่อของพ่อเลี้ยง) ได้ออกอุบายบอกพ่อเลี้ยง ว่าจะพาน้องเอไปเที่ยวไปซื้อของและไปเก็บสายบัว ซึ่งขณะนั้นมีน้ำท่วม ปู่ได้พาน้องเอนั่งเรือยนต์ออกไปกลางทุ่งนา ไปจอดเรือหลบใต้ต้นไม้แล้วก่อเหตุข่มขืน หลังข่มขืนแล้วได้ให้เงินครั้งละ 1000 บาท หลังจากนั้นปู่ก็ข่มขืนมาอย่างต่อเนื่องโดยการพาไปข่มขืนในบ้านของปู่ ซึ่งอยู่คนละหลังแต่ไม่ไกลกัน บางครั้งก็ในรถกระบะ เป็นแบบนี้เรื่อยมาล่าสุด วันที่ 4 ก.พ. น้องเอทนไม่ได้จึงมาหาเพื่อน ปู่ได้มาตามหาและกระชากน้องเอออกจากที่นอน และคุยกัน ก่อนพาน้องเอขึ้นรถไปวนแถวจังหวัดอ่างทอง แล้วเขาก็จอดหาที่เพื่อข่มขืนและเขาเอามีดมาจี้ที่คอ บอกว่าทำไมนอกใจกันอย่างนี้ ไม่อยากฆ่าเพราะเดี๋ยวตำรวจตามตัวเจอเลยไม่ทำ และก่อนพากลับบ้านก็พาเขาไปข่มขืนในทุ่งนาอีกรอบ 

 

จากการสืบสวนต่อ น้องเอกล่าวว่าเคยเล่าให้แม่ฟัง แต่แม่บอกให้ทนยอมเขาเพราะได้เงินเขาให้เงินใช้ครั้งละ 1000 บาท เงินที่เขาให้มาน้องเอก็เอาไปให้แม่  แม่บอกว่าถ้าไม่ทนเราก็จะลำบาก คืนวันที่ 4 หลังจากที่เขาพาน้องเอ ไปข่มขืนแล้วพากลับบ้านพอกลับมาถึงบ้านเขาก็เรียกพ่อเลี้ยงมาช่วยตบที่หัวและที่หน้า จนปากแตกและมีรอยช้ำที่แขน ซึ่งไปให้แพทย์ตรวจไว้แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นเล่าให้แค่แม่ กับเพื่อนสนิทอีกคนฟัง แต่เพื่อนเพิ่งมาเล่าทีหลัง เพราะไม่ค่อยได้ไปเจอกันบ่อย 

 

ทาง น.ส.สวย  (นามสมมุติ) มารดาของเด็ก กล่าวว่า แม่ผิดเองที่ไว้ใจคนไม่คิดคนที่ตนเคารพและไว้ใจเหมือนพ่อ จะทำกับลูกของตนได้  ต่อหน้าตนเขาก็พูดดี ซื้อของมาให้พาลูกออกไปเที่ยวไปซื้อของ แต่ตนไมรู้เลยว่าเขาพาลูกไปย่ำยี  เพิ่งจะรู้ความจริงเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ นี่เองหัวอกคนเป็นแม่ใจแทบสลาย เมื่อช่วงปลายปี น้องมาบอกว่าถูกลวนลาม แต่ไม่รู้ว่าถูกข่มขืน น้องบอกว่าปู่ มากอดมาจับ ก็เลยบอกให้ทนไป เพราะเราอยู่บ้านเขา และเราจนไม่มีที่ไป และน้องก็ป่วยเป็นไทรัสซิเมีย ต้องไปให้เลือดที่โรงพยาบาลทุกเดือนต้องใช้เงินในการเดินทางไปรักษาตัว ต่อไปจะดูให้ดี เขาทำจริง พ่อเลี้ยงไม่เกี่ยว มีแต่ปู่ ที่ทำ ขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

 

ด้านนายสถาพร เจ้าของธุรกิจพื้นผนังคอนกรีตเบา ผู้ช่วยเหลือพาเด็กเขาแจ้งความ กล่าวว่าลูกน้องตนซึ่งเป็นพ่อของเพื่อนเด็กที่เป็นผู้เสียหาย มาปรึกษาตนตอนเช้า ว่าเจอเรื่องแบบนี้มาจะทำยังไง พอทราบว่าเด็กถูกทำอะไรมาบ้าง ก็ไม่รอช้ารีบพาเด็กมาหาตำรวจเลย ก่อนจะมาก็ถามเด็กถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยใจที่อยากช่วยเด็ก รู้สึกแย่ที่มีเหตุการณ์แบบนี้ ก็เลยต้องพามาแจ้งตำรวจ และเป็นห่วงลูกน้องด้วยที่ต้องเขามาเกี่ยวพันกับเรื่องนี้  ที่แรกก็รู้สึกแย่กับแม่เด็กว่าทำไมปล่อยให้ลูกเป็นแบบนี้ แต่จากสภาพที่เจอไม่นึกว่าสังคมยังมีภาวะบีบคั้นจนไม่รู้ต้องทำยังไง จึงต้องรับสภาพไปแบบนั้น ซึ่งเมื่อเช้าเจอแม่เด็กก็คุย   เขาก็บอกว่าไม่รู้จะไปที่ไหน ตนเลยบอกให้มาทำงานที่บริษัทถ้าเขาพร้อมที่จะสู้  อะไรช่วยได้ก็อยากจะช่วยตามกำลัง ไม่คิดอย่างอื่น เมื่อคืนผู้ก่อเหตุก็มีการขับรถวนมาที่บ้านของลูกน้อง มีอาวุธมาด้วย เหมือนมาข่มขู่ลูกน้อง เขาก็โทรมาแจ้งตน เราก็ต้องช่วยให้มากที่สุดต้องปกป้องลูกน้องเรา และช่วยสังคมเท่าที่ช่วยได้

 

ทางด้าน พ.ต.อ. มาโนช  จันทร์เที่ยง  ผกก.สภ.บางปลาม้า กล่าวว่า ได้ให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง และ ได้ให้ชุดสืบสวนติดตามตัวปู่  ที่ถูกกล่าวหามาสอบสวน ซึ่งชุดสืบสวนได้นำปู่ ที่ถูกกล่าวหามาทำการสอบสวน ส่วนตัวของเด็กขณะนี้อยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กสุพรรณบุรี  ดูแลแล้ว  ส่วนทางด้านคดีก็ต้องมีการสอบสวน หากเข้าข่ายข้อหาใด ไม่ว่าจะ  ข้อหาพรากผู้เยาว์ ข้อหากระทำอนาจาร หรือ ข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา ก็จะได้ขออนุมัติหมายจับต่อไป