ชายวัย 34 ปี อดีตทหารพรานคลั่งถือมีดพร้าไล่ฟันชาวบ้าน แล้วหนีไปซุกตัวในกระท่อมกลางนา เจ้าหน้าที่ล้อมนาน 30 นาที หลังร้องขอชาเย็นกับกล้วยแขก จนควบคุมตัวได้นำส่งโรงพยาบาลพัทลุง

วันที่ 26 ธ.ค. 2565 ตำรวจ สภ.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุง เข้าล้อมกระท่อมไม่มีเลขที่กลางทุ่งนา ม. 6 ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง หลังนายวันใหม่ หนูช่วย ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 แจ้งขอความช่วยเหลือว่า นายโชคชัย หรือเอียด วัย 34 ปี มีอาการคุ้มคลั่งใช้มีดพร้าไล่ฟันชาวบ้านจนหนีกันชุลมุน แล้วหนีเข้าไปกบดานในกระท่อมหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือลุยน้ำเข้าไปเพื่อเจรจา ถูกนายเอียดตะโกนด่า การเข้าควบคุมตัวเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากมีทางเข้าเพียงทางเดียว เจ้าหน้าที่จึงติดต่อญาติเข้าไปเจรจา จนนายเอียดร้องขอชาเย็นพร้อมกล้วยแขก เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวได้อย่างปลอดภัยโดยไม่มีการขัดขืน

นายวันใหม่ หนูช่วย ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 เล่าว่า นายเอียดเป็นอดีตทหารพราน หลังป่วยทางจิตเวชถูกส่งตัวกลับมารักษาตัวที่บ้านนานประมาณ 5 ปี ช่วงกลับมารักษาตัวนายเอียดเสพยาเสพติด ล่าสุดเมื่อเช้าเกิดอาการคลั่งใช้มีดพร้าไล่ฟันชาวบ้านจนต้องวิ่งหนีกระเจิง ก่อนหน้านี้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชจังหวัดสงขลา แต่ยังเสพยาอาละวาดอยู่บ่อยครั้ง ตามปกติจะอยู่บ้านเดียวกับพี่สาวซึ่งห่างจากกระท่อมประมาณ 200 เมตร แต่นายเอียดมักจะมานอนเก็บตัวคนเดียวในกระท่อมดังกล่าว

ด้านนางดวงแก้ว อายุ 63 ปี น้าสาว เล่าว่า นายเอียดเริ่มคลุ้มคลั่งตั้งแต่เมื่อวาน ถือมีดพร้าไล่ฟันชาวบ้าน เพราะเดินไปไหนจะถือมีดพร้าอยู่ตลอด จนตนต้องห้ามชาวบ้านที่เข้าไปหาปลาและนำวัวไปเลี้ยงให้หลีกเลี่ยงเพราะนายเอียดเริ่มมีอาการ จนกระทั่งเพิ่งทราบว่าวันนี้ไล่ฟันชาวบ้านอีก พอมีอาการเขาจะจำใครไม่ได้แม้กระทั่งพี่น้องจะไล่ฟันตลอด ตนเคยทราบว่านายเอียดเสพยาบ้าแต่ตนไม่เคยเห็นเพราะบ้านห่างกัน และไม่ค่อยเข้ามาคลุกคลี ก่อนหน้านี้ถูกเจ้าหน้าที่จับส่งไปบำบัดหลังจากหายดีก็กลับมาอยู่บ้านตามปกติประมาณ 2 – 3 ปี คาดว่าช่วงนี้ขาดยาเพราะไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่ตนไม่เชื่อว่านายเอียดจะคลั่งเพราะเสพยา เนื่องจากไม่มีงานทำคงไม่มีเงินไปเสพยา แต่ตนคิดว่าเป็นพลพวงมาจากตอนที่ไปเป็นทหารพรานป่วยเป็นจิตเวชจนถูกส่งตัวกลับ ทางญาติพร้อมที่จะนำตัวไปบำบัดอีกครั้ง หากทิ้งไว้ชาวบ้านจะไม่ได้รับความปลอดภัยถึงขั้นเสียชีวิตได้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุง เพื่อรับการบำบัด จากการตรวจสอบภายในกระท่อมไม่พบอาวุธมีดพร้าและสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด