แม่ค้าขายผักเครียด ขายของไม่ได้ หลังต้นทุนสูงเป็นเท่าตัว ต้องกู้เงินรายวันมาหมุนเวียนซื้อผักขาย

นางสว่าง อายุ 63 ปี แม่ค้าขายผักในตลาดเคหะเมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น เล่าว่า ยึดอาชีพขายผักสดตามตลาดมาเกือบ 20 ปี เมื่อก่อนขายดีเป็นอย่างมาก ได้กำไรวันละ 5000-6000 บาท แต่ปัจจุบันขายได้สูงสุดวันละ 1000-2000 บาท ขณะเดียวกันต้องมาแบกรับต้นทุนราคาผักที่ปรับขึ้นราคาเกือบทุกชนิด เช่น ผักคะน้าปรับขึ้นราคาถุงละ 200 บาท (ถุง10 กก.) จากเดิมราคาถุงละ 50 บาทเท่านั้น  แตงกวาจากเดิมถุงละ 80 บาท ปัจจุบันปรับขึ้นถุงละ 150บาท มะเขือจากเดิมถุงละ 180 บาท ปัจจุบันปรับขึ้นถุงละ 380 บาท ต้นหอม จากเดิมมัดละ 80 บาท ปรับขึ้นมัดละ 160 บาท ส่วนราคาขายจะขายอยู่ที่มัดละ 10-20 บาทเท่านั้น

 

นางสว่าง แม่ค้าขายผัก ยังบอกอีกว่า หลังราคาปรับขึ้นราคา ทำให้ต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น หากจะขึ้นราคาขายและปรับลดปริมาณผักแต่ละมัดลง ก็กลัวลูกค้าจะไม่ชื้อ เพราะลูกค้าก็ไม่มีกำลังชื้อเช่นกัน บางวันขายไม่ได้สักบาท กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาลงทุนชื้อผักเพิ่ม หากจะเลิกขายไปเลยก็คงไม่ได้ เพราะเป็นอาชีพที่ทำมานาน  นอกจากนี้ในช่วงสถานการณ์โควิด ทำให้ขายผักแทบไม่ได้ เพราะลูกค้าไม่ค่อยออกมาจับจ่ายชื้อของ ผักที่นำมาขายก็เน่าเสีย ทำให้ไม่มีเงินทุนมาหมุนเวียนในร้าน จึงตัดสินใจไปกู้เงินนอกระบบมา ดอกร้อยละ 10 เพื่อมาชื้อผักลงขายใหม่ในแต่ละวัน ถึงแม้จะกลัวตามที่เป็นข่าว แต่ก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาลงทุน เพราะไม่มีแหล่งเงินทุน และถ้าหากมีแหล่งเงินทุนที่เชื่อถือได้ ดอกเบี้ยถูก ตัวเองก็จะตัดสินใจกู้ เพื่อนำเงินมาจ่ายเงินกู้นอกระบบให้หมด