โรมจี้ ส.ว. ไฟเขียวประชามติ แก้ รธน. ใหม่ทั้งฉบับ ลั่น เรียกร้องให้ดำเนินคดี จนท. คฝ. ทำร้ายสื่อ-ประชาชน อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล

รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกลแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนประเด็นขอให้มีการทำประชามติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ เพื่อแทนที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งได้ผ่านการลงมติเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ไปแล้วของสภาผู้แทนราษฎร ปัจจุบันได้ถูกบรรจุเข้าในระเบียบวาระของวุฒิสภา ซึ่งกำลังจะพิจารณาในวันพรุ่งนี้นั้น

 

ตนในฐานะโฆษกของพรรคก้าวไกล ที่ได้เสนอญัตตินี้นั้น เรามีความตั้งใจให้การทำประชามติครั้งนี้ขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งที่จะมาถึง เพื่อให้การเข้าคูหาของพี่น้องประชาชนเกิดความสะดวก ทำพร้อมกันในคราวเดียว และการจัดการลงประชามติที่หากเกิดขึ้นพร้อมกันกับการเลือกตั้งก็จะประหยัดเงินภาษีของพี่น้องประชาชน

 

อย่างไรก็ดี ทราบว่าการดำเนินการเช่นนี้ เป็นการดำเนินการที่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ของประเทศของเรา อาจจะมีวุฒิสมาชิกบางท่านที่คิดว่าการดำเนินการเช่นนี้อาจจะติดขัดในเรื่องของระเบียบกฎหมาย จึงมีบางท่านต้องการเสนอว่าควรจะมีการตั้งกรรมาธิการเพื่อศึกษาเรื่องนี้ก่อน ซึ่งอาจจะยาวนานถึง  60 วัน

ซึ่งหากเหตุการณ์ที่ผมกล่าวถึงเกิดขึ้นจริง จะทำให้โอกาสที่จะจัดประชามติไปพร้อมกับการเลือกตั้งเป็นไปได้ยาก และจะส่งผลให้มีค่าใช้จ่าย ทั้งที่เราสามารถประหยัดได้

รวมถึงการดำเนินการประชามติเช่นนี้ก็เป็นกระบวนการที่สอดคล้องตามนัยยะของศาลรัฐธรรมนูญที่หากต้องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะต้องมีการถามประชาชนก่อน ทั้งนี้ ในประเด็นปัญหาข้อกฎหมายที่อาจจะเกิดขึ้นนั้น สามารถที่จะดำเนินการแก้ไข เปลี่ยนแปลงกฎระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนได้ หากญัตตินี้ผ่านการพิจารณาของวุฒิสภา ดังนั้น เราจึงไม่ควรอย่างยิ่งที่จะอ้างกฎระเบียบใดๆมาขวางกั้น ความต้องการที่จะสร้างรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนตนและพรรคก้าวไกลหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การพิจารณาญัตติดังกล่าวของวุฒิสภา จะดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงที่ประชาชนหวัง

 

 

นอกจากนี้โฆษกพรรคก้าวไกลกล่าวถึง กรณีการสลายการชุมนุมพี่น้องประชาชนของกลุ่มราษฎรหยุด APEC ซึ่งกลุ่มดังกล่าวมีข้อเรียกร้องหลายประการที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม การสลายการชุมนุมดังกล่าวได้เกิดขึ้นอย่างรุนแรงต่อผู้ชุมนุม จนนำไปสู่การจับกุมผู้ชุมนุมจำนวน  25 คน และมีบางส่วนที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาล คุณพายุ ถูกยิงเข้าที่ดวงตา ซึ่งมีโอกาสน้อยมากที่จะกลับมามองเห็นปกติ คุณ พลาธิพ ถูกทำร้ายอย่างรุนแรง ฟันหัก นอกจากนี้ยังพบกรณีของการประทุษร้ายโดยเจ้าหน้าที่ต่อสื่อมวลชนที่เข้าไปทำข่าวในพื้นที่ เช่นกรณีนักข่าว The Matter ถูกตำรวจควบคุมฝูงชนทำร้ายและมีการกล่าววาจาในลักษณะของการระบายอารมณ์ใส่ ทั้งที่ตัวนักข่าวสวมปลอกแขนสื่อชัดเจนและบอกกล่าวกับเจ้าหน้าที่แล้วว่าตนเป็นสื่อ, กรณีนักข่าวพลเมือง The Isaan Record ถูกตำรวจเข้าทำร้ายร่างกายและจับกุมทั้งที่บอกกล่าวกับเจ้าหน้าที่แล้วว่าตนเป็นสื่อ, กรณีนักข่าว Reuters ถูกปาขวดแก้วจากหลังแนวโล่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา ความรุนแรงเหล่านี้ไม่น่าเชื่อเลยว่าเกิดขึ้นจากคนไทยที่กระทำต่อคนไทยด้วยกัน

 

พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการสอบสวนเรื่องนี้ เพื่อหาคนที่เกี่ยวข้องกับการทำร้ายประชาชน อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล

 

และหยุดการใช้กฎหมายเพื่อกลั่นแกล้งประชาชน ต้องมีการยกเลิกข้อกล่าวหาที่กำลังดำเนินคดีต่อประชาชน ข้อเสนอนี้ไม่ใช่มีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น  แต่รวมไปถึงพนักงานอัยการที่มีอำนาจในการมีคำสั่งไม่ฟ้อง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 142 ที่จะทำความเห็นเสนอต่ออัยการว่าเห็นควรไม่สั่งฟ้อง ส่วนอัยการมีอำนาจตามมาตรา 143 ที่จะออกคำสั่งไม่ฟ้องได้

 

สุดท้ายรัฐบาล ควรรับฟังประชาชน ไม่ควรปล่อยให้มีการใช้อำนาจเพื่อทำร้ายประชาชนอย่างที่เป็นอยู่

นอกจากนี้ผมในฐานะกรรมาธิการการกฎหมายฯ ของสภาผู้แทนฯ จะขอนำกรณีการสลายการชุมนุมครั้งนี้ รวมถึงการละเมิดสิทธิอื่นๆ ในระหว่างการประชุม APEC เข้าพิจารณาใน กมธ. โดยเร่งด่วน รังสิมันต์ระบุ