ครูสาว เตือนภัย อย่าหลงเชื่อโปรไฟล์ในโซเชียล หลังถูกมิจฉาชีพ เอารูปภาพไปปลอมเฟซบุ๊ก ไอจี อินสตราแกรม และช่องทางอื่นๆกว่า 200 บัญชี ทักยั่วหลอกผู้ชายวัยทำงานสุดท้ายเสียท่าสูญเงินกว่าร้อยคน รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 น.ส.บี (นามสมมุติ) รับราชการครู ที่จังหวัดมหาสารคาม อายุ 31 ปี เป็นผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ "Supattra Pimyawong" นำเอกสารที่เป็นหลักฐาน จากการถูกมิจฉาชีพใช้รูปภาพ ไปปลอมเฟซบุ๊ก ปลอมไอจี กว่า 200 ชื่อ  หลอกประชาชนให้หลงเชื่อ และปลอมบัตรประชาชน ทำให้ได้รับความเดือดร้อนและเสื่อมเสียชื่อเสียง มาให้ผู้สื่อข่าวดู เพื่อแจ้งเตือนประชาชน ที่ใช้โซเชียล อย่าหลงเชื่อคำพูดของบุคคลที่ตัวเองไม่รู้จัก และมีการพูดคุยกันทางโซเชียลเด็ดขาด เพราะจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้

 

ครูบี กล่าวว่า รับราชการครู ปัจจุบันสอนอยู่ในโรงเรียนที่จังหวัดมหาสารคาม  ประมาณ 1 ปี มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กได้พิมพ์ข้อความมาทางกล่องข้อความของผู้แจ้งชื่อเฟซบุ๊ก "Supattra Pimyawong" ว่าได้มีบุคคลอื่นนำภาพของครู ไปสร้างบัญชีเฟซบุ๊กขึ้นใหม่ชื่อ "น้ำทิพย์ นัฏฐธิดา"และได้นำภาพของผู้แจ้งไปเป็นตั้งค่าเป็นภาพโปรไฟล์ จากนั้นได้มีการคัดลอกภาพในเฟซบุ๊กของผู้แจ้งไปลงโพสต์ต่อเนื่อง ให้เสมือนว่าผู้แจ้งเป็นผู้ใช้งานจริง และนำเฟซบุ๊กชื่อ "น้ำทิพย์ นัฏฐธิดา" ที่สร้างขึ้นมาใหม่ ไปใช้หลอกลวงเอาทรัพย์สินของบุคคลอื่น โดยให้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของผู้ชายรายหนึ่ง ซึ่งมีชื่อสกุล อยู่ในพื้นที่อ.วารินชำราบ จ.อุบลรราชธานี

 

ครูบี เปิดเผยอีกว่า  หลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวแจ้งให้ทราบและเตือนว่าน่าจะถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง และเอารูปไปใช้เป็นโปรไฟล์ เพื่อหลอกลวงคนอื่นๆ ต่อมาก็มีผู้เสียหายจากการถูกมิจฉาชีพ ที่ปลอมเฟซบุ๊ก แอดเป็นเพื่อน เพื่อหลอกลวงให้คบหา หลอกลวงให้ลงทุนต่างๆนานา กว่า 160 ราย  ผู้ใช้ไอจีอีกประมาณ 60 ราย ได้ติดต่อเข้าและแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ ให้ทราบ จึงได้รู้ความจริงว่า มีคนเอารูปภาพตนเองไปปลอมแปลงเฟชบุ๊ก ปลอมไอจี หลอกผู้ชายวัยทำงาน อายุตั้งแต่ 40-60 ปี หลอกล่อคำหวาน จากนั้นก็ขอเงิน ขอสิ่งของมีค่า เมื่อฝ่ายชายตายใจก็โอนเงินให้ บางคนหลงคารม ก็ยอมร่วมลงทุนเทรดบิดคอยน์ สูญเงินไปรายละ  150000 บาทร่วม 15 ราย รวมแล้ว 2250000 บาท

 

“ผู้ชายส่วนใหญ่ที่ติดต่อมาแจ้งให้ทราบกว่า 50 ราย ที่เข้าแจ้งความในกรณีถูกหลอกลวงให้คบหา  แต่ผู้ชายที่ถูกหลอกเอาเงิน หลอกเอาของมีค่าจะไม่กล้าแจ้งความเพราะอับอายและกลัวครอบครัวรู้  และเมื่อทุกคนรู้ความจริงว่า คนที่คุยด้วยนั้นเป็นตัวปลอม ที่ทำการปลอมเฟชบุ๊ก ปลอมไอจี ก็ยินดีให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ว่ามิจฉาชีพที่แอบอ้างนั้นมีพฤติกรรมอย่างไรบ้าง  จึงรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน รนสภ.เมืองขอนแก่น ให้ทำการสืบสวนจับกุม มิจฉาชีพที่เอารูปภาพไปใช้ปลอมเฟซบุ๊ก ปลอมไอจี ปลอมบัตรประชาชน มาดำเนินการตามกฎหมาย”

 

ครูบี  กล่าวอีกว่า นอกจากแจ้งความกับตำรวจสภ.เมืองขอนแก่นแล้ว ยังประสานไปยังตำรวจไซเบอร์ให้ทราบเรื่องด้วย ซึ่งในเบื้องต้นทราบจากตำรวจไซเบอร์ว่า รูปของตนเองนั้น ถูกกลุ่มมิจฉาชีพที่อยู่ต่างประเทศ นำไปใช้เป็นโปรไฟล์เพื่อหลอกลวงคนอีกจำนวนมาก ทั้งในประเทศจีน มาเก๊า กัมพูชา ลาว รวมถึงในประเทศไทยด้วย  จึงฝากเตือนไปยังผู้ใช้โซชียลว่า อย่าหลงเชื่อคนที่พูดคุยกันทางโซเชียลที่ไม่เห็นรูปร่างหน้าตา เพราะคนที่คุยด้วยอาจจะเป็นกลุ่มมิจฉาชีพได้  ส่วนคนที่กำลังใช้รูปภาพของตนเองเป็นโปรไฟล์ ก็ขอให้เลิกทำ เพราะสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชีวิตของคนที่เป็นตัวจริงเป็นอย่างมาก แม้จะยังไม่สูญเสียทรัพย์สิน แต่การที่ถูกคนอื่นเอารูปภาพไปใช้ จนสูญเสียการใช้ชีวิตแบบปกติไป เพราะผู้ชายบางคนไปตามถึงโรงเรียน เพื่อสอบถาม ในเรื่องตัวปลอมสัญญาจะคบหาเป็นแฟน   เพราะทุกคนเชื่อจากรูปโปรไฟล์ เชื่อจากคำพูดที่คุยกันในโซเชียลทั้งที่ยังไม่เห็นตัวจริง จึงอยากให้เลิกทำ