ตามจับวุ่น! รถยนต์ชนจยย. กลางสามแยก สาหัส 2 ราย เจ้าหน้าที่สกัดไว้ได้ห่างจากจุดเกิดเหตุ 3.7 กิโลเมตร คนขับรถยนต์ยันไม่ผิด และไม่ยอมเป่าตรวจแอลกอฮอล์

เวลา 21.58 น. เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2565 ร.ต.อ.เลิศศักดิ์ รัตนพิทักษ์ ร้อยเวรสภ.เมืองตราด ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์และรถจักรยานยนต์ชนกัน มีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 รายในที่เกิดเหตุ บริเวณ 3 แยกหนองเสม็ด ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมประสานกู้ภัยจังหวัดตราด เดินทางรับผู้บาดเจ็บ

ในที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บหญิง 2 ราย อาการสาหัส แขนและขาหักทั้งคู่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือจังหวัดตราดเข้าช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมประสานรถกู้ชีพโรงพยาบาลตราด เดินทางรับผู้บาดเจ็บรายแรกชื่อนางสาวนันทิชา สังขวรรณ์ อายุ 15 ปี ที่ไม่ได้สติ หายใจติดขัด รายที่ 2 ชื่อนางสาวศุภสุดา ขวัญดี อายุ 16 ปี ส่วนรถจักรยานยนต์ของผู้บาดเจ็บ ยี่ห้อเวสป้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 1กฉ 321 ตราด สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ชิ้นส่วนแตกกระจายเกลื่อนที่เกิดเหตุ และพบกระจกมองข้างด้านขวาของรถยนต์คู่กรณีตกอยู่

พลเมืองดีรายหนึ่ง กล่าวว่า รถยนต์คันหนึ่ง ขับมาจากทางถนนสายแหลมศอก เมื่อมาถึง 3 แยก เลี้ยวขวาเข้าตัวเมืองตราด ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้น จากนั้น รถยนต์คันดังกล่าว ได้ขับหลบหนีเข้าตัวเมืองไป

ขณะที่คู่กรณีเป็นรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ไม่ทราบทะเบียน หลังเกิดเหตุขับหลบหนีเข้าตัวเมืองตราด โดยตำรวจสายตรวจสายเมืองตราด ติดตามจับกุมได้ที่บริเวณชุมชนกิจสวัสดิ์ เขตเทศบาลเมืองตราด อ.เมือง จ.ตราด ที่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3.7 กิโลเมตร โดยสภาพรถด้านขวาบริเวณล้อหน้า เป็นรอยยุบ ทราบชื่อคนขับชื่อนางสาวกลมวรรณ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 ถนนพัฒนาการปลายคลอง (อยู่ในเขตเทศบาลไม่มีหมู่) ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด

เมื่อตำรวจคุมตัวนางสาวกลมวรรณ มายังสภ.เมืองตราด เพื่อทำการเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ปรากฏว่า นางสาวกลมวรรณ บ่ายเบี่ยงไม่ยอมเป่าวัดแอลกอฮอล์ กระทั่งร.ต.อ.เลิศศักดิ์ รัตนพิทักษ์ ร้อยเวร สภ.เมืองตราด เจ้าของคดี สอบถามอีกครั้งว่ายินยอมที่จะวัดปริมาณแอลกอฮอล์หรือไม่ นางสาวกลมวรรณ ให้คำตอบเดิมว่าไม่ผิดและขอวัดพร้อมกับคู่กรณี ซึ่งร.ต.อ.เลิศศักดิ์ ถามอีกครั้งว่าจะวัดหรือไม่ สุดท้ายนางสาวกลมวรรณ ไม่ยินยอมวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ก่อนที่ตำรวจจะตั้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ พร้อมตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่า นางสาวกลมวรรณ อาจขับรถยนต์ในขณะเมาสุรา

นางสาวกลมวรรณ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองขับรถมาจากอำเภอแหลมงอบ มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองตราด แต่ปรากฎว่ารถจักรยานยนต์ วิ่งเข้ามาชนเอง ตอนนั้นก็รู้ว่าเกิดอุบัติเหตุ แต่คิดว่าตัวเองไม่ผิดเลย เพราะถูกชน ขับรถกลับบ้านตามปกติ ตนเองไม่ได้ขับรถหนีแต่อย่างใด แต่หากรู้ว่าผิดก็จะจอดอยู่แล้ว และยอมรับว่าดื่มสุรามา 1 แก้ว แต่ไม่เมา

อย่างไรก็ตาม สภาพที่เกิดเหตุ คำให้การของพลเมืองดี และนางสาวกลมวรรณที่ให้การกับตำรวจ ปรากฏว่า มีทิศทางการขับรถกลับไม่สอดคล้องกับสภาพที่เกิดเหตุ เนื่องจากพลเมืองดี เห็นรถของนางสาวกลมวรรณ ขับมาจากถนนสายแหลมศอก สอดคล้องกับจุดเกิดเหตุและสภาพรถที่ถูกชนรถจักรยานยนต์ ซึ่งตำรวจจะทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป