ตร.ภาค 5 แจงแล้ว กรณีปล่อยรถหลวงจมน้ำ รถคันดังกล่าวอยู่ในสภาพใช้การไม่ได้ ประเมินค่าซ่อมแซมแล้วไม่คุ้มค่า อยู่ระหว่างการจำหน่าย

 

จากกรณีมีเพจ ชื่อดัง "กูรู้..โลกรู้" ได้ลงภาพรถยนต์เก๋งของตำรวจจอดใต้อาคาร ปล่อยให้น้ำท่วมมิดคัน โดยในเพจดังกล่าวยังระบุข้อความ "ย้ายแต่รถส่วนตัว ส่วนรถหลวงไม่ย้าย..เสียหาย" ซึ่งภาพและการโพสต์ดังกล่าว สร้างความสะเทือนใจและเสียใจอย่างมากกับประชาชนและเพื่อนข้าราชการตำรวจด้วยกัน

 

ต่อมาช่วงเย็นวันนี้ (4 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ถนนมหิดล ตำบลหนองหอย ในตัวเมืองเชียงใหม่ พบว่า ยังคงถูกน้ำปิงเอ่อท่วมในพื้นที่ทั้งหมด ระดับความสูงของน้ำครึ่งเมตรถึงเมตรกว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วย นปพ.คอยอำนวยความสะดวกหน้าประตูทางเข้าสำนักงาน เพื่อนำอาหารและน้ำไปส่งตำรวจที่เฝ้าเวรประจำตัวอาคาร และเวรรักษาดูแลทรัพย์สินในตัวอาคาร

 

น้ำปิงที่ได้เอ่อไหลมาท่วมสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 นั้น เนื่องจากที่ทำการตำรวจภูธรภาค 5 อยู่ติดกับริมน้ำปิง ซึ่งน้ำท่วมครั้งนี้ ได้ทำความเสียหายให้กับห้องทำงานทั้งกองบังคับการสืบสวนที่อยู่ด้านล่าง และห้องประชุมอาคารติดลำน้ำปิง และบ้านพักของนายตำรวจภาค 5 ทั้งหมด ซึ่งปรากฏว่า ในช่วงน้ำปิงขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำรถยนต์ทั้งของส่วนตัวและประจำตำแหน่งของนายตำรวจระดับสูง ถูกขนย้ายออกจากสำนักงานไปจนหมดแล้ว และมีรถยนต์เก๋งยี่ห้อ BMW ของตำรวจจอดปล่อยให้น้ำท่วมมิดคัน ที่ด้านหลังอาคารอำนวยการของสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 โดยไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายแต่อย่างใด จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในสื่อโซเชียล

 

ต่อมาช่วง บ่ายของวันนี้ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ของตำรวจภูธรภาค 5 ได้ชี้แจงเรื่องนี้ผ่านกลุ่มไลน์สื่อมวลชนกับตำรวจภูธรภาค 5 มีข้อความระบุว่า

 

ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อสารมวลชนเมื่อวันที่ 4 ต.ค.65 ว่า สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ปล่อยให้ น้ำท่วมรถบีเอ็มตำรวจมิดคันนั้น จากกรณีดังกล่าว ตำรวจภูธรภาค 5 ขอชี้แจงว่า ในวันเกิดเหตุ (3 ต.ค.65 ) ได้มีปริมาณน้ำเป็นจำนวนมากและไหลเร็วเข้ามาท่วมในพื้นที่อาคารที่ทำการของตำรวจภูธรภาค 5 และอาคารบ้านพักข้าราชการตำรวจภูธรภาค 5 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการขนย้ายทรัพย์สินของทางราชการที่มีความสำคัญและมีมูลค่าให้ขึ้นไปในที่ปลอดภัยก่อน เช่น รถโรงครัวสนาม ทรัพย์สินของทางราชการต่าง ๆ รวมทั้งรถยนต์ของทางราชการที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ซึ่งมีจำนวนประมาณ 128 คัน ได้ครบทุกคัน แต่เนื่องจากรถคันดังกล่าวอยู่ในสภาพใช้การไม่ได้ ประเมินค่าซ่อมแซมแล้วไม่คุ้มค่าต่อการใช้งาน และอยู่ระหว่างการจำหน่าย โดย ภ.5 ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อปี 2554 มีอายุการใช้งานเป็นเวลา 11 ปี โดยในขณะที่จะทำการเคลื่อนย้ายนั้นระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและรถอยู่ในลักษณะที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ (ล้อล๊อก) ประกอบกับรถสไลด์(รถยก) มีจำนวนจำกัด ต้องทำการเคลื่อนย้ายรถคันอื่นที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ จึงเป็นเหตุให้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถคันดังกล่าวได้ทัน

​​

ในประเด็นดังกล่าว พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ได้กำชับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาให้พิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ และทั้งนี้เมื่อสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายแล้ว ภ.5 จะดำเนินการแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตำรวจภูธรภาค ๕ ขอขอบคุณที่กรุณาช่วยเผยแพร่ข่าวสาร