พ่อค้าแม่ค้าโอด! หลังแก๊สหุงต้มแพงขึ้นต่อเนื่องเป็นรอบที่ 3 พุ่งสูงถังละ 400 บาท แต่กลับส่งผลดีกับคนที่ทำอาชีพ "เผาถ่านขาย" กระแสดีจนต้องสั่งจองล่วงหน้า ด้านชาวบ้านหันมาใช้ถ่านมากขึ้น เผยก่อไฟเตาเดียวทำได้หลายอย่าง ประหยัดกว่าใช้แก๊สหลายเท่าตัว

 

วันที่ 8 มิ.ย.65 สืบเนื่องจากแก๊สหุงต้มปรับราคาแพงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นรอบที่ 3 แล้ว โดยมีราคาพุ่งสูงถังละ 400 บาท สำหรับถัง 15 กก. และหากไม่ได้อยู่ในตัวเมืองจะมีค่าขนส่งเพิ่มขึ้นไปอีก ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยเฉพาะพ่อค้า แม่ขาย ที่ต้องใช้แก๊ส ทำให้มีต้นทุนสูงขึ้นจนได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน แต่ได้ส่งผลดีกับชาวบ้านที่มีอาชีพเผาถ่านขายเผาถ่านขายกันแทบไม่ทัน เพราะประชาชนหันมาใช้ถ่านแทนแก๊ส เพื่อลดค่าใช้จ่ายกันเป็นจำนวนมาก

ด้านนางขันทอง ศรีพรรณ กล่าวว่า ตนเองมีอาชีพทำนา และเผาถ่านเป็นอาชีพเสริมมานานกว่า 20 ปี โดยเผาถ่านให้กับแม่ค้าไปบรรจุขายต่อ และแม่ค้าข้าวหลาม แม่ค้าปลาเผา และชาวบ้าน รวมถึงเพื่อนบ้านเป็นบางส่วน โดยไม้ที่นำมาเผาถ่านใช้ไม้จากหัวไร่ปลายนาของตนเอง และของเพื่อนบ้าน ก่อนหน้านี้ตอนที่ราคาแก๊สยังไม่ขึ้นราคา จะเผาประมาณเดือนละ 1 เตา จะได้ถ่าน 30 กระสอบ โดยแต่ละเตาจะใช้เวลาเผาประมาณ 10 วัน และจะบรรจุกระสอบไว้ขาย แต่ล่าสุดขณะนี้ มีความต้องการจากชาวบ้านเพิ่มขึ้น จึงต้องมีการเผาเพิ่มขึ้นอีกเป็น 3 เตาต่อเดือน แต่ก็ยังไม่พอขาย และต้องสั่งจองกันไว้ล่วงหน้า เรียกว่าเผาถ่ายขายกันแทบไม่ทัน ซึ่งจะขายกระสอบละ 200 บาท โดย 3 เตา จะได้ถ่าน 90 กระสอบจะมีรายได้เดือนละ 18000 บาท

ส่วนนางสาวจรวดี คงไทย ชาวบ้านในพื้นที่ที่หันมาใช้ถ่านแทนแก๊ส กล่าวว่า โดยปกติตนเอง และชาวบ้าน ใช้ความสะดวกสบายจากการใช้แก๊สหุงต้มในครัวเรือนไว้หุงข้าว ทำกับข้าวต่าง ๆ มาเป็นเวลานานแทบจะไม่ใช้ถ่านกันเลย แต่เมื่อแก๊สแพงขึ้นมากจนรับไม่ไหว จนมาถึงราคาแก๊สขึ้นเป็นรอบที่ 3 จึงหันมาใช้ถ่านหุงข้าว ทำกับข้าวแบบโบราณ ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากก่อไฟในเตาแต่ละครั้ง จะสามารถหุงข้าว ทำกับข้าว ได้หลายอย่าง และหากไฟของถ่านยังมอดไม่หมด ก็ยังสามารถตักจากเตาเอาใส่ไว้ในไหปิดฝาไหให้ไฟดับ และนำกลับมาก่อไฟหุงข้าว ทำกับข้าวได้อีก ซึ่งเป็นภูมิปัญญาแบบโบราณ ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายได้หลายเท่าตัวอีกด้วย