พลทหารหนุ่มวัย 34 ปี ยิง มร.ชั้น ม.2 เจ็บสาหัสเหตุตามจีบแล้วไม่รับรัก ก่อนยิงตัวดับต่อหน้ายายเด็ก-แม่ตัวเอง

ตำรวจ สน.บางนา รับแจ้งเหตุยิงกันตายและมีผู้บาดเจ็บภายในบ้านเลขที่ 98/217 หมู่บ้านรุ่งเรืองวิลล่า ซอยกุศลศิลป์ ถนนสรรพวุธ ย่านบางนา จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรนิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น พบศพพลทหารอาสาสมัครปิยะมิตร บันดาลุน อายุ 34 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ขวางประตูทางเข้าบ้าน สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ขมับขวาทะลุซ้าย 1 นัด ใกล้กันพบอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด.38 มม. ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ภายในรังเพลิงพบปลอกกระสุน 2 ปลอก กระสุน 4 นัดนอกจากนี้มีคนเจ็บทราบชื่อน้องเอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี นร.ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนย่านสรรพวุธ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าขมับซ้ายทะลุท้ายทอย อาการสาหัส ถูกนำส่ง รพ.ไทยนครินทร์

สอบสวนนางบุญเรือง (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี ยายน้องเอ ให้การว่า คนตายเป็นลูกชายนางบี (นามสมมุติ) อายุ 62 ปี เคยรับจ้างเลี้ยงน้องเอ มาตั้งแต่เด็ก 2-3 ขวบ คนตายพบเห็นและชอบพอ ตามจีบน้องเอ มาตั้งแต่น้องอายุ 11 ขวบ แต่น้องไม่ชอบ ไม่เล่นด้วยจึงตามตื้อเรื่อยมา ก่อนเกิดเหตุผู้ตายและนางบี รวมถึงน้องเอ เดินมามานั่งพูดคุยเรื่องดังกล่าวภายในบ้านตนเอง ซึ่งตนบอกไปว่าน้องอายุยังน้อยต้องการให้เรียนหนังสือให้จบ มีงานทำก่อนค่อยมีแฟน ส่วนน้องเอ ก็ตอบปฏิเสธผู้ตาย ทำให้ผู้ตายโมโหชักปืนออกมาจากเอวยิงน้องเอ 1 นัด และใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเอง 1 นัด ตนกับนางบี ตกใจกรีดร้องให้เพื่อนบ้านช่วยเหลือแต่ไม่ทันการณ์แล้ว

ด้านนางบี กล่าวว่า ลูกชายเป็นพลทหารอากาศอาสาสมัครประจำอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วงหลังมีอาการเป็นโรคซึมเศร้า กลับมาพักที่บ้านหลายเดือนแล้ว ตนรู้ว่าลูกชายชอบน้องเอ เคยห้ามเพราะเห็นน้องยังเด็กแต่ลูกชายก็ตามจีบเรื่อยมา ก่อนเกิดชักชวนตนไปพูดคุยกับน้องเอ เนื่องจากมีปัญหาเรื่องตามจีบกัน เห็นว่าเป็นเด็กที่ตนเคยรับเลี้ยง เห็นกันมาแต่เด็กและเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน กลัวมองหน้ากันไม่ติดจึงมาเจรจาพูดคุย ไม่คิดว่าลูกชายพกปืนมาด้วยและก่อเหตุยิงน้องกอหญ้าและยิงตัวเองตายตาม

ด้าน พ.ต.อ.มนต์เสก ตระกูลพานิชย์ ผกก.สน.บางนา กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อพบว่าผู้ก่อเหตุยิงตัวตายเสียชีวิต  คดีความตาม ป.วิอาญา ก็ต้องสิ้นสุดลง ส่วนน้องเอ ถ้าไม่เสียชีวิต จะเชิญญาติทั้ง 2 ฝ่าย มาพูดคุยการเยียวยาเรื่องที่เกิดขึ้นต่อไป