นางปวีณา หงสกุล มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อม น.ส.สุรินทร์ แอบเสมา อายุ 30 ปี  และนายอัมพล ลือบางใหญ่ อายุ 34 ปี แม่และพ่อ ของ ด.ญ.ธาราลักษ์ ลือบางใหญ่ อายุ 2 ปี หรือน้องนาเดียร์ เดินทางเข้ารับศพน้องนาเดียร์ ที่ นิติเวช รพ.ตำรวจ  โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ โดยนางปวีณา มอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวด้วย 1 หมื่นบาท

 

พ.ต.อ.วาที   อัศวุตมางกุร โฆษกสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เปิดเผยถึงผลการชันสูตรเบื้องต้นว่ายังไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่ก็ยังไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตของน้องนาเดียร์ได้ เนื่องจากสภาพศพยุบตัว และเปลี่ยนสภาพมาก เพราะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน ร่างกายภายนอกยังไม่พบบาดแผลที่นำไปสู่การเสียชีวิต  แต่เจ้าหน้าที่นิติเวชได้ส่งชิ้นเนื้ออวัยวะภายใน อาทิ ปอด ตับ หัวใจ ไปตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการอย่างละเอียด ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 30 วัน จึงจะทราบผล ทำให้ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าน้องนาเดียร์จมน้ำหรือไม่ ถ้าน้องนาเดียร์จมน้ำจริง จะต้องมีคราบน้ำ และตะไคร่อยู่ภายในชิ้นเนื้อที่ส่งตรวจอย่างแน่นอน

 

ด้านคุณพ่อและคุณแม่ของน้องนาเดียร์ เผยความรู้สึกหลังทราบผลการตรวจของลูกว่า ยังติดใจเรื่องการเสียชีวิตของลูก เพราะพฤติกรรมของพี่สะใภ้น่าสงสัย หลังน้องนาเดียร์เสียชีวิต ทำไมพี่สะใภ้ไม่พาน้องนาเดียร์ไปส่งโรงพยาบาล แต่กลับนำไปฝังดิน และหลังเกิดเหตุ คนข้างบ้านมาพูดเตือนว่าทำไม่ถึงฝากให้พี่สะใภ้เลี้ยงลูก ไม่รู้เหรอว่าเขาเป็นคนอย่างไร ซึ่งก็สร้างความแปลกใจว่า ทำไมคนข้างบ้านถึงมาพูดแบบนี้ แม้หลังเกิดเหตุ พี่สะใภ้โทรศัพท์มาขอโทษ แต่ก็ไม่อยากจะพูดคุยด้วยอีกแล้ว ที่ผ่านมาพี่สะใภ้เลี้ยงลูกให้ไม่เคยมีปัญหาอะไร และไม่เคยเห็นมีแผลหรือได้รับบาดเจ็บหนัก หรือถ้ามีก็จะเป็นแค่รอยฟกช้ำที่อาจจะเกิดจากการหกล้ม อย่างไรก็ตามตนไม่เชื่อว่าพี่สะใภ้จะก่อเหตุคนเดียว การจะทำแบบนี้ได้ จะไม่มีใครรู้เห็นเลยเป็นไปไม่ได้ หรือถ้าเขาสามารถฝังเด็กคนหนึ่งได้ด้วยตัวคนเดียวถือว่าเขาเก่งมาก จากนี้ก็จะนำศพน้องไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหลักหก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี

 

นางปวีณา เปิดเผยด้านคดีความว่า จากการได้พูดคุยเจ้าของคดี ทราบว่าตอนนี้ตำรวจกำลังสืบสวน สอบปากคำญาติและพี่สะใภ้อย่างละเอียด โดยติดต่อให้เจ้าหน้าสหวิชาชีพ เข้ามาสอบปากคำพี่สาววัย 4 ขวบ ของน้องนาเดียร์ด้วย เนื่องจากเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และจะต้องรอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบ ส่วนเรื่องของครอบครัว พ่อและแม่ของน้องนาเดียร์ประสงค์ที่จะนำพี่สาวคนโตวัย 4 ขวบ ขึ้นมาเลี้ยงเองที่กรุงเทพ มูลนิธิจะเป็นผู้ประสานงานทั้งเรื่องการเป็นอยู่และการศึกษา และยังจะเป็นตัวกลางในการติดตามความคืบหน้าของคดีต่อไปด้วย