พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในฐานะ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีมีชายไทยหลายราย ตกเป็นเหยื่อแก๊งคนร้ายชาวต่างชาติข่มขู่เรียกเงินแลกกับคลิปที่แอบบันทึกไว้ขณะเหยื่อถูกหลอกสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง โดยระบุว่า การกระทำดังกล่าวเรียกว่า “Sextortion” คือ การบังคับ ข่มขู่หรือกรรโชกทางเพศ โดยคนร้ายจะใช้สื่อออนไลน์สร้างโปรไฟล์หญิงสาวชาวต่างชาติแล้วทักมาคุยจนเหยื่อตายใจ ก่อนจะชวนเหยื่อเปิดกล้องวีดิโอคอลแลกกันสำเร็จความใคร่แล้วแอบอัดคลิปไว้เรียกค่าไถ่ โดยขู่ว่าจะส่งคลิปลับไปให้ ภรรยา ลูก เจ้านาย ลูกน้องในที่ทำงาน หรือเพื่อนของเหยื่อ ทำให้เหยื่อมีความวิตกกังวล กลัวจะได้รับความเสื่อมเสียและอับอาย จึงยอมโอนเงินไปให้คนร้ายหลายหมื่นบาท ซึ่งคนร้ายมักเลือกชายไทยที่มีหน้าที่การงานที่มั่นคง เพราะเมื่อเหยื่อเป็นที่รู้จักนับถือของคนในสังคม ก็เกรงจะได้รับความอับอาย คนร้ายย่อมได้เงินจากการข่มขู่แน่นอน

 

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อว่า แก๊งคนร้ายที่พบส่วนใหญ่เป็นชาวฟิลิปปินส์ และมักให้เหยื่อโอนเงิน เป็นเงินสกุลดิจิทัล เพื่อให้ยากต่อการติดตาม แต่คนร้ายที่เป็นคนไทยก็มี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ขอฝากข้อควรระวังคือ ให้ตรวจสอบข้อมูลในบัญชีคนไม่รู้จักที่ทักทายเข้ามาผ่านโซเชียลให้ดี และอย่าสำเร็จความใคร่ตามที่ถูกโน้มน้าว แต่หากตกเป็นเหยื่อถูกถ่ายคลิปข่มขู่เรียกเงิน ก็อย่าโอนเงินให้ ขอให้รวบรวมพยานหลักฐานแจ้งตำรวจ ซึ่งผู้กระทำผิด จะมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 ฐาน ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากนำภาพไปปล่อยในเว็บไซต์ลามก ก็จะผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ