เมื่อวานนี้ มีกลุ่มบุคคลปริศนาลอบขึ้นไปบนภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใคร ขึ้นไปทำอะไร ล่าสุดทราบตัวแล้วเป็นกลุ่มทนายตั้ม กับลุงพล

จากกรณี มีกลุ่มบุคคลปริศนา เดินเท้าขึ้นไปบนภูเหล็กไฟในจุดที่พบศพน้องชมพู่ เมื่อวานนี้ ล่าสุด ทีมข่าวได้พบกับ ตามี (นามสมมุติ) นายพรานบ้านกกตูม ซึ่งเป็นผู้นำทางให้กลุ่มบุคคลปริศนาขึ้นไปบนภูเหล็กไฟ

“ตามี” เล่าว่า เมื่อวานนี้มีบุคคลปริศนาโทรศัพท์มาติดต่อ อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ มีทั้งแพทย์ นักวิทยาศาสตร์การกีฬา และเลขาฯทนายความ จำนวน 5 คน ให้ช่วยพาขึ้นไปบนภูเหล็กไฟ แต่ไม่ได้บอกเหตุผล ซึ่งตัวเองเข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เพราะตัวเองเคยระบุว่า น้องชมพู่ อาจจะเดินขึ้นไปเสียชีวิตเองได้ โดย 1 ใน 5 คน มีลุงพล รวมอยู่ด้วย ที่เหลือไม่ทราบว่ามีใครบ้าง แต่ทราบว่า 1 ในจำนวนนี้ มีการระบุว่าเป็นหัวหน้าป่าไม้ฯ ติดตามมาด้วย

ตามี บอกว่า ลุงพล กับพวกอยู่บริเวณจุดที่พบศพน้องชมพู่ ประมาณ 5 นาที โดยลุงพล เดินชี้ตามจุดต่างๆ ก่อนจะพากันเดินลง ซึ่งเมื่อเดินมาถึงทางแยก (จุดที่พบรถแบคโฮ) กลุ่มบุคคลปริศนา สั่งให้แยกลงเป็น 2 เส้นทาง ให้ตามี แยกไปอีกทาง อ้างว่าขออนุญาติขึ้นเขาแค่ 3 คน ตามี จึงคิดว่ามีการแบ่งคนตามเขาลงมา แต่ปรากฎว่าไม่มี จึงไม่ทราบว่า ลุงพล พากลุ่มคนดังกล่าวลงไปทางใด

ทีมข่าวให้ “ตามี” พาเดินไปในเส้นทางเดิมอีกครั้ง โดยได้มีการประสานขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูผายล ตามขั้นตอน

“ตามี” พาทีมข่าวเดินลัดเลาะไปตามตีนเขา วนขึ้นไปด้านบน เป็นเส้นทางที่ไม่ได้สูงชันมากนัก แต่บางจุดมีโขดหินเล็ก-ใหญ่ ทำให้เดินลำบาก ทีมข่าวใช้เวลาเดินขึ้นภูเหล็กไฟ ไปกับ “ตามี” 51 นาที ซึ่ง “ตามี” ระบุว่า เร็วกว่าที่พากลุ่มบุคคลปริศนา ขึ้นมาเมื่อวานนี้ ที่ใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมง

ด้าน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม วันนี้ยกเลิกภารกิจในการเดินเท้าขึ้นภูเหล็กไฟ ตามที่ได้นัดหมายกับสื่อมวลชนไว้ แต่เปลี่ยนแผนพาลุงพลไปศาลจังหวัดมุกดาหาร เพื่อยื่นเอกสารตามสิทธิที่สามารถทำได้

ทนายตั้ม ชี้แจงว่า เนื่องจากเมื่อวานมีกลุ่มคน ซึ่งขอไม่ระบุว่าเป็นใคร ้สร้างความปั่นป่วนด้วยการแอบขึ้นเขา ลักษณะคล้ายกับรอบที่แล้ว ก่อนที่ตัวเองจะลงพื้นที่บ้านกกกอก มีการสร้างความวุ่นวายกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เกี่ยวกับการปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 จึงเกรงว่าหากขึ้นภูเหล็กไฟ ซึ่งเป็นภูเขาที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูผายล ในวันนี้ อาจจะมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้

ด้านลุงพล ถึงแม้ว่าวันนี้จะปิดวาจาแต่ได้พูดกับสื่อสั้นๆ ว่า ณ เวลานี้ลุงพล ยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น หลังจากนี้จะสู้ไปตามสถานการณ์

ทนายตั้ม เผยอีกว่า สำหรับที่มีการให้สัมภาษณ์สื่อ ว่ามีคนมาปั่นป่วนจนทำให้ทำคดียากนั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะตัวเองนั้นทำคดีดัง แต่ไม่สนใจเพราะทำตามหน้าที่

บุคคลปริศนาย่องขึ้นภูเหล็กไฟเป็นทีมลุงพล