ศึกระหว่างนายอัจฉริยะ และทนายษิทรา กลับมาเริ่มระอุอีกครั้ง หลังจากที่ ทนายษิทรา คู่ปรับเก่า ออกมาประกาศว่า ยินดีจะช่วยลุงพล ทำคดีน้องชมพู่

หลังลุงพลประกาศว่าได้ติดต่อให้ทนายษิทรา หรือทนายตั้ม ช่วยทำคดีน้องชมพู่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทนายตั้ม เคยทำคดีนายอัจฉริยะ หมิ่นประมาท ลุงพล มาก่อน ล่าสุด ทนายษิทรา ก็ออกมายอมรับว่าพร้อมที่จะช่วยทำคดีให้ แต่ขอลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลก่อน 

จากนั้น นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม คู่ปรับเก่าทนายตั้ม ก็มีการเคลื่อนไหวทันที โดยนายอัจฉริยะ ได้ โพสต์เฟซบุ๊กผ่านเพจชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุว่า คดีน้องชมพู่ เราจะได้เห็นทนายตั้ม ออกมาช่วยนายพล เพราะ คนทั้งประเทศจะได้ฝีมือการว่าความอีกครั้ง แต่ครั้งนี้คงไม่ง่ายเหมือนคดี เอมี่หรือน้องหญิงตกรถบางปะอิน ขอให้ทำหน้าที่ ทนายความให้ดีที่สุด เหมือนที่ส่งข้อความให้นักข่าวในคดี

ล่าสุด นายอัจฉริยะ ก็ได้โพสต์อีกครั้งว่า ชมรมพร้อมชนกับน้องเสมอทุกเวที พรุ่งนี้พี่จัดให้คดีแรกให้น้องรับงานไปเลย ชมรมจัดให้คดีแรก ที่กองบังคับการปราบปรามทรัพยากรธรรมชาตและสิ่งแวดล้อม (ปทส). ปลูกสร้างวังพญานาค

จากนั้นมีทีมงานโทรไปสอบถาม นายอัจฉริยะ ว่า กังวลไหม นายอัจฉริยะ ก็ ยืนยันไม่กังวล และกระซิบบอกกับเราเพียงสั้น ๆ ว่า ต่อให้มีร้อย (ทนาย) ตั้มก็ไม่หวั่น

จริงๆวันที่ 25 มค. 64 ต้องเจอกันศาลอาญารัชดาอยู่แล้ว แต่ศาลเลื่อนไปเดือนพ.ค. 2564 เพราะ ติดสถานการณ์โควิด

หลายคนสงสัยว่า อยู่ดีๆ 2 คนนี้มาเป็นคู่ปรับกันได้อย่างไร และ หลายคนคงไม่เชื่อว่า ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยทำงานสอดรับเป็นเนื้อเดียวกัน ในคดีแย่งหวยรางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท ระหว่างร้อยตำรวจโท-จรูญ วิมูล และนายปรีชา ใคร่ครวญ

ซึ่งทั้งทนายตั้ม ในฐานะทนายความหมวดจรูญ และนายอัจฉริยะ ที่ช่วยขุดคลิปเสียงคล้ายครูปรีชาจนได้ใจแฟนคลับในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก

ทำให้ทนายตั้ม และนายอัจฉริยะ สนิทสนมกันมากขึ้น จนถึงขั้นเรียกพี่ชาย-น้องรักร่วมสาบานกันเลยทีเดียว รวมถึงเคยควงกันไปเดินเล่นอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามประสาคนคอเดียวกัน โดยมีทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เป็นสักขีพยาน

และช่วงนี้แหละ ที่ทำให้เกิดรอยร้าว เนื่องจากนายอัจฉริยะ พูดเป็นนัยว่าความขัดแย้งว่า เรื่องที่ตนออกมาพูดว่า ทนายรูปหล่อคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้เอ่ยว่าเป็นใคร ไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง กับผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อเรื่องดังกล่าวคนที่บ้านของทนายรูปหล่อ รู้เรื่องเข้า ทนายรูปหล่อคนนี้ จึงอ้างว่า ผู้หญิงคนดังกล่าว เป็นหลานสาวที่อยู่ต่างประเทศของตนเอง ซึ่งนายอัจฉริยะ ก็ไม่รับรองเรื่องนี้ให้เพราะไม่ใช่ความจริง

หลังจากนั้นความสัมพันธ์ของนายอัจฉริยะ และทนายตั้มเริ่มแย่ลง จากนั้นก็มีการไลฟ์สด พาดพิงกันไปมา ประกอบกับเมื่อคดีอดีตนางเอกสาว-อาเมเรีย จาคอป หรือเอมี่ มีการเปลี่ยนตัวทนายความ 2 คน ก่อนทนายตั้ม จะตอบรับเป็นทนายความให้ นายอัจฉริยะจึงออกมาระบุถึงขั้นใช้คำว่า อุดมการณ์ต่างกันเลยทีเดียว

จากนั้นมีการสาวไส้กันเป็นชุด จนมาถึงกรณีคลิปเสียงทวงเงินค่าทำคดี 5 แสนบาท ที่ในคลิปมีเสียงของบุคคลชื่อทนายตั้มปรากฏอยู่ นอกจากนี้ช่วงที่ผ่านมายังมีทนายชื่อดังคนอื่นเข้ามาผสมโรงด้วยข้อครหาว่า ทนายหนุ่มบางคน ไม่มีสัมมาคารวะ และมักใช้ความเป็นทนายข่มขู่คนอื่น จนทำให้สัมพันธ์ของทั้งคู่ขาดสะบันกันในที่สุด