แม่บ้านโรงแรมหรูที่กระบี่ ถูกแทง 11 แผล เสียชีวิตคาห้องเช่า ขณะที่แฟนหนุ่มคนใหม่มีพิรุธ หายตัวปริศนา

ตำรวจภูธรเมืองกระบี่ เข้าตรวจสอบศพนางสาวกนกพร อายุ 36 ปี ภายในห้องเช่าหมายเลข 17 ในตำบลไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ซึ่งนอนอยู่บนที่นอน สภาพเลือดไหลนอง มีผ้าห่มปิดอยู่ครึ่งตัว ใบหน้าถูกหมอนปิดทับไว้ ตามผนังห้องมีรอยเลือดกระจายไปทั่ว และมีคราบเลือดเป็นรูปฝ่ามือ ที่คอ และข้อมือ ยังมีสร้อยคอทองสวมใส่อยู่

ตรวจสอบสภาพร่างกาย มีแผลถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่บริเวณลำคอ ข้างแก้ม กกหู ท้ายทอย ฝั่งซ้ายทั้งหมด 8 แผล หน้าท้องมีรอยถูกแทงอีก 3 แผลรวมเป็น 11 แผล คาดเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 2-3 วัน ส่วนสภาพภายในห้อง ข้าวของถูกรื้อกระจัดกระจาย

ที่หน้าบ้านผู้ตาย พบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายจอดอยู่ ที่บังโคลนรถพบหยดเลือด ชุดพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรอยนิ้วมือแฝงไปตรวจสอบ

เพื่อนผู้ตาย เล่าว่า แม่ของผู้ตายที่นครศรีธรรมราช โทรศัพท์มาบอกว่า ติดต่อผู้ตายไม่ได้ 3 วันแล้ว ขอให้ช่วยมาดู จึงโทรมาสอบถามที่โรงแรม ซึ่งผู้ตายทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ แต่ทางโรงแรมแจ้งว่า ไม่ไปทำงาน 2-3 วันแล้ว ซึ่งผิดปกติ เพราะผู้ตายเป็นคนขยัน ไม่เคยขาดงาน จึงมาดูที่บ้านเช่า ซึ่งผู้ตายพักอยู่กับแฟนหนุ่มคนใหม่ 2-3 เดือนแล้ว หลังเลิกกับแฟนเก่านานนับปี และเคยมีลูกด้วยกัน

เมื่อมาถึงบ้านผู้ตาย พบประตูบ้านปิดกุญแจจากข้างนอก แต่รถจอดอยู่ พยายามเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบ ผิดสังเกต จึงขอให้เพื่อนบ้านมาช่วยพังประตู ก็พบเป็นศพแล้ว แต่ไม่พบตัวแฟนหนุ่มคนใหม่

สอบถามพยานแวดล้อม ทราบว่า แฟนหนุ่มคนใหม่ มีชื่อเล่นว่า นายเก้า อายุประมาณ 30 ปี ทำงานอยู่ที่เดียวกับผู้ตาย โดยแฟนหนุ่มทำงานแผนกซักผ้า ทั้งคู่เพิ่งคบกันได้ไม่นาน ก่อนย้ายมาเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน

ก่อนเกิดเหตุ มีคนเห็นผู้ตายไปทำงานล่าสุด คือวันที่ 29 ธันวาคม จากนั้นก็หายไป ส่วนแฟนหนุ่มไปทำงานครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม โดยยังขี่รถของผู้ตายไปนอนที่บ้านเดิมอีกหลัง แต่ไม่พบฝ่ายหญิง

จากนั้นวันที่ 31 ธันวาคม แฟนหนุ่มขี่รถกลับมาจอดไว้ที่บ้านเช่าที่เกิดเหตุ แล้วหายตัวไป ทางบ้านนายเก้าเองก็พยายามติดต่อ แต่ติดต่อไม่ได้

ส่วนโทรศัพท์มือถือของผู้ตายหายไปด้วย เจ้าหน้าที่โทรเข้าไปยังโทรติด แต่ไม่มีคนรับสาย จากนั้น เบอร์โทรของผู้ตาย โทรกลับมาที่เครื่องของเจ้าหน้าที่อีกครั้ง แต่ไม่มีคนพูด และวางสายไป

ตำรวจเร่งตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด และจะตามตัวแฟนหนุ่มมาสอบสวนว่า เกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่