ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค ลงพื้นที่ดูคุณภาพน้ำดิบ หลังน้ำประปาในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรามีคุณภาพน้ำต่ำ พบค่าแมงกานีสสูงเกินกว่ามาตรฐานหลายเท่าตัว
รองศาสตราจารย์ เสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค ได้นำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบและหาทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาคฉะเชิงเทรา
หลังมีประชาชนร้องเรียนผ่านทางสื่อบางแขนงและมีการส่งต่อกันผ่านทางโลกโซเชียล ว่า คุณภาพน้ำประปา มีสีแดงจนบางครั้งดำข้น และ มีค่าแมงกานีสสูงเกินกว่ามาตรฐานอีกทั้งยังมีตะกอนสีดำปนเปื้อน
ที่ผ่านมาได้มีการตรวจและพบค่าแมงกานีสในคลองท่าไข่ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่นำมาใช้ในการผลิตทำน้ำประปา พบว่า มีค่าสูงเกินกว่ามาตรฐานถึง 3.1 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งเกินกว่าค่ามาตรฐานของน้ำดิบที่จะนำมาใช้ในการผลิตประปา ที่ต้องมีค่าแมงกานีสไม่เกิน 1 มิลลิกรัมต่อลิตร และ หลังจากผ่านกระบวนการผลิตทำน้ำประปาแล้วนั้น พบว่า มีค่าแมงกานีสสูงถึง 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งยังเกินกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้คือไม่เกิน 0.3 มิลลิกรัมต่อลิตร
รองศาสตราจารย์เสรี กล่าวว่า จากการสำรวจในพื้นที่พบว่า น้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาฉะเชิงเทรา สาขาบางปะกงและสาขาบางคล้า มีค่าแมงกานีสสูงเกินกว่ามาตรฐานจริง
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงของต้นฤดูฝนเนื่องจากน้ำธรรมชาติที่ไหลเข้ามาจากแปลงไร่นาจากบ่อดินที่ขายหน้าดินหรือการทิ้งน้ำเสียลงมาจึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มีค่าแมงกานีสในน้ำดิบสูงขึ้นได้
จึงได้สั่งให้การประปาส่วนภูมิภาคฉะเชิงเทรา หามาตรการแก้ไข เพื่อรองรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนในระยะยาวให้หาแหล่งน้ำดิบจากแหล่งอื่นๆ มาใช้ในการผลิตน้ำประปาแล้ว ส่วนสถานการณ์น้ำในวันนี้ได้กลับไปเป็นปกติแล้ว โดยพบค่าแมงกานีสในน้ำประปาแค่เพียง 0.17 มิลลิกรัมต่อลิตร