เหตุเพลิงไหม้ห้างเมเจอร์ซินิเพล็ก สาขาปิ่นเกล้า เมื่อวันก่อน ล่าสุดเจ้าหน้าที่วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯลงพื้นที่วิเคราะห์สาเหตุ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรไม่ใช่แก๊สระเบิดตามข่าวลือในโลกโซเชียล
สภาพอาคารเมเจอร์ ซีนี่เพล็กซ์ สาขาปิ่นเกล้า หลังเกิดเพลิงไหม้เมื่อวันก่อนจนเสียหายอย่างหนัก ล่าสุดศาสตราจารย์ด็อกเตอร์สุชัชวีร์ สุวรรณสัวสดิ์ นายกวิศกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. ลงตรวจพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อวิเคราะห์ความมั่นคงของอาคาร และปัญหาซึ่งอาจสร้างผลกระทบต่อทรัพย์สินของประชาชน ระบุหลังร่วมกับสำนักการโยธากรุงเทพมหานครและผู้บริหารอาคารเมเจอร์ฯ ว่า ผลการตรวจสอบพบว่า โครงสร้างอาคารตั้งแต่ชั้นที่ 1 ชั้นที่ 2 และ ชั้นที่ 3 ยังแข็งแรงดี แต่บริเวณทางขึ้นโรงภาพยนตร์ช่วงชั้นที่ 3 ต่อเนื่องไปบนชั้นที่ 4 เสียหายมาก จากการได้รับความร้อนจากการเผาไหม้ จนทำให้โครงสร้างเหล็กยุบตัวต้องรื้อถอน ซึ่งจากการสำรวจสันนิษฐานว่า อาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจร โดยต้องรอผลตรวจพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานยืนยันข้อสันนิษฐานอีกครั้ง
สอดคล้องกับรองศาสตราจารย์สิริวัฒน์ ไชยชนะ เลขาธิการ วสท. ระบุ ต้นเพลิงน่าจะเกิดที่โรงภาพยนตร์ชั้น 3 ซึ่งเสียหายมากที่สุด คาดว่าหลังจากเพลิงไหม้จากฝ้าเพดาน เปลวไฟได้ร่วงมาติดพรม เก้าอี้ แล้วลุกลามอย่างรวดเร็ว ยืนยัน สาเหตุไม่ได้มาจากแก๊สระเบิดตามที่มีการส่งต่อกันในโลกโซเชียล
นายกวิศกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ยังระบุเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันกฎหมายควบคุมและดูแลความปลอดภัยโครงสร้างอาคารของประเทศไทยนั้น มีความทันสมัยไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่อาคารส่วนใหญ่ในไทยเป็นอาคารที่สร้างขึ้นก่อน ซึ่งจะต้องพูดคุยและกำหนดข้อปฏิบัติร่วมกันเพื่อยกระดับความเป็นมาตรฐานสากล โดยเจ้าของอาคารต้องรับผิดชอบในทุกระบบที่จะสร้างความปลอดภัย คาดว่าจากนี้น่าจะมีการกำหนดมาตรการความปลอดภัยในเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยให้สมบูรณ์ในกฎหมายฉบับนี้เพิ่มขึ้นอีก เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของคนไทยทุกคน