ครูพละหื่นข่มขืนนักเรียนหญิงชั้น ป.6 ส่งข้อความขู่ฆ่าล้างโคตร จนแม่พาย้ายบ้านหนี ล่าสุดอดีตภารโรงแฉ ครูเคยข่มขืนเด็ก ป.5 มาก่อน

คดีที่แม่แจ้งความว่าลูกสาวอายุ 12 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 ถูกครูหื่น อายุ 33 ปี ข่มขืนในห้องพละของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ และยังทักแชทเฟซบุ๊กมาหาเด็กว่า ”อย่าลืมกินยาคุมฉุกเฉินที่ซื้อไปให้ และอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด เพราะครูจะต้องโดนไล่ออก และถ้าเอาไปบอกใคร ครูจะฆ่าล้างโคตร"

แถมหลังเกิดเหตุยังมีครูในโรงเรียน 2-3 คน มาหาที่บ้านเจรจาขอยุติคดี ทำให้หวาดกลัวจนต้องพาลูกสาวย้ายบ้านหนีไปอยู่ต่างอำเภอ

ล่าสุด อดีตภารโรงอายุ 50 ปี ที่เคยทำงานอยู่ในโรงเรียนดังกล่าว ออกมาแฉพฤติกรรมของครูที่ก่อเหตุ บอกว่า สอนอยู่ที่โรงเรียนมา 10 ปีแล้ว พอๆ กับที่เข้ามาทำงาน เป็นคนลึกลับเหมือนมีความลับตลอดเวลา

ครูรายนี้ เคยข่มขืนเด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.5 มาก่อนหน้านี้ มีการแจ้งความกับตำรวจ สภ.นางรอง แต่ก็สามารถรอดมาได้ โดยไม่ได้รับโทษใดๆ แถมยังกลับมาสอนได้เหมือนเดิม กระทั่งมาก่อเหตุกับเด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.6 คนดังกล่าว

อดีตภารโรง ยังบอกว่า เมื่อประมาณ 4 เดือนที่ผ่านมาถูก ผอ.เลิกจ้าง โดยอ้างเรื่องงบประมาณ แต่เชื่อว่าน่าจะมาจากที่รู้เรื่องภายในมากเกินไป

ผู้สื่อข่าวไปดูความเคลื่อนไหวของครูบอย พบว่าโพสต์เฟชบุ๊กตัวเองด้วยข้อความว่า ”ขอบคุณท่าน ผอ .มากนะครับที่ช่วยเหลือผมมาโดยตลอด และก็ขอบคุณ คณะครูบางส่วนที่แนะนำช่วยเหลือหลายๆ เรื่อง ผมจะไม่ลืมพระคุณนี้เลย ผมจะจดจำคำว่า ”เรารัก........ ตลอดไป”

ขณะบรรยากาศในโรงเรียนที่เกิดเหตุวันนี้ ชาวบ้านในพื้นที่เดินทางมาที่หน้าโรงเรียน ตะโกนขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียนออกจากพื้นที่ เพราะเชื่อว่าเป็นคนคอยช่วยเหลือครู ให้รอดคดี ทีมข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ผู้อำนวยการโรงเรียน แต่ถูกปฏิเสธ

ส่วนความเคลื่อนไหวของครูที่ก่อเหตุ ทราบว่า ถูกให้ออกจากราชการแล้วตั้งแต่วันที่ 2-3 กรกฏาคม

ด้านคดี พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ตำรวจในพื้นที่แจ้งข้อหากับครูที่ก่อเหตุ ซึ่งรับสารภาพทุกข้อหา จึงส่งฝากขังกับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ โดยคัดค้านประกันตัวในชั้นสอบสวน แต่ญาติยื่นประกันตัวในชั้นศาลออกไป เมื่อต้นเดือนกรกฏาคม

สำหรับประเด็นที่ เพื่อนครูมาเจรจาข่มขู่เด็กและผู้ปกครองที่บ้าน เพื่อขอให้จบเรื่อง ทางตำรวจเตรียมเชิญผู้ปกครองมาสอบปากคำอีกครั้ง พร้อมจะจัดสายตรวจไปดูแลความปลอดภัยให้ต่อไป