โซเชียลวิจารณ์หนัก บุคคลVIP โผล่อีก ขอเข้าพักคอนโดหรูย่านสุขุมวิท พบเป็นนักการทูต แต่สุดท้ายต้องไปอยู่ใน state quarantine เป็นเวลา 14 วัน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศจัดหาให้

เมื่อคืนนี้ ที่คอนโดหรูย่านสุขุมวิท พบกรณีนักการทูตจากประเทศเอสโทเนีย ขอเข้าพัก 1 คน แต่ไม่ได้รับการยินยอมจากฝ่ายอาคารและนิติบุคคล เนื่องจากเหตุผลเรื่องความปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ของลูกบ้าน ที่มีอยู่ถึง 604 ห้อง จนตำรวจและเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตคลองเตยต้องมาติดตามสถานการณ์

ซึ่งแม้ทางนิติบุคคลคอนโดได้ประสานไปยัง ศบค. และสายด่วนกรมควบคุมโรค เพื่อให้ช่วย แต่กลับได้รับคำตอบให้ประสานไปยังสถานทูตเอง เนื่องจากเป็นเรื่องระหว่างคอนโดฯ และ สถานทูต วันนี้ คุณนฤพล อาจหาญ ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ไปยังคอนโดมิลเลนเนียม เรสซิเด้นท์ แอท สุขุมวิท เผื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นางนาตาชา รอยส์ รองประธานกรรมการ บริษัท พีพีเอ็ม จำกัด ซึ่งบริหารพื้นที่นิติบุคคลอาคารชุดมิลเลนเนียมเรสซิเด้น เปิดเผยว่า คนที่ประสานมาทางคอนโดในครั้งแรกผ่านอีเมล์ คือ นักการทูตที่จะเข้าพัก ช่วงบ่าย 3 โมงเย็น เมื่อวานนี้ หลังจากนั้น ช่วง 1 ทุ่มนักการทูตคนดังกล่าว เดินทางมาถึงคอนโด ซึ่งทางนิติบุคคลได้ขอเจรจา โดยขอไม่ให้ลงจากรถตู้ และยืนยันไม่ให้เข้าในพื้นที่ หลังเจรจากว่า 3 ชั่วโมง ทางนักการทูต และสถานทูตเอสโตเนียประจำประเทศไทย ยังยืนยันที่จะใช้เอกสิทธิ์ในการเข้าพักในพื้นที่คอนโด และยังต่อสายให้นิติบุคคล เจรจากับปลายสายที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งยืนยันว่า สามารถให้นักการทูตดังกล่าวเข้าพักได้ โดยระหว่างเจรจา ยังมีการถามถึงความรับผิดชอบว่า หากทางคอนโดไม่ให้เข้าพัก จะออกค่าใช้จ่าย ให้ไปพักที่อื่นหรือไม่ กระทั่ง 4 ทุ่ม ทางคอนโดก็ได้รับการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศว่า หาที่พักที่เป็น state quarantine เป็นเวลา 14 วันให้นักการทูตดังกล่าวได้แล้ว รถตู้จึงเดินทางออกจากพื้นที่ โดยผู้อาศัยในคอนโดนี้ กว่า 1 พันคน รู้สึกโล่งใจ และพากันขอบคุณนิติบุคคลที่มีมาตรการชัดเจน

ขณะที่ในโซเชียลมีเดีย มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงประเด็นนี้อย่างร้อนแรง ตั้งคำถามถึงบทบาทของศบค.ในการกำหนดแนวทางดำเนินการที่ชัดเจนเรื่องการรับ บุคคล VIP จากต่างประเทศ หลังเพิ่งผ่าน ปัญหาทหารอียิปต์ และ เด็กหญิงจากครอบครัวอุปทูตซูดานที่ติดเชื้อโควิด-19 เข้าพักในที่ซึ่งไม่ใช่สถานกักกันของรัฐ

ล่าสุด นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธินโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ระบุว่า 23.00 น.ที่ผ่านมา นักการฑูตคนดังกล่าวได้ไปพักโรงแรมแกรนเซนเตอร์พ้อยท์ Terminal 21 ซึ่งเป็นสถานที่ที่รัฐฯ จัดให้เป็น Alternative State Quarantine โดยให้เสียค่าใช้จ่ายเอง ตามการประสานงานของกระทรวงการต่างประเทศ และ ยืนยันว่านักการฑูตเอสโทเนียดังกล่าวผ่านการตรวจหาโควิด -19 ที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้ว ไม่พบการติดเชื้อ

ขณะที่ที่ประชุมของคณะกรรมการเฉพาะกิจ ได้มีมติเปลี่ยนข้อกำหนดให้นักการฑูตที่จะเข้ามาในประเทศไทย ต้องเข้ากักตัวใน State Quarantine