ตำรวจตั้ง 3 ข้อสันนิษฐานหาก แพทย์สรุป "น้องชมพู่" เสียชีวิตเอง ด้านลุงพล ไม่เชื่อ แต่หากตำรวจปิดคดีเช่นนั้นก็ต้องยอมรับ พร้อมเปิดโอกาสแม่ชมพู่ มาขอโทษ ที่เคยกล่าวหาว่าเป็นคนทำ

คุณจุฑารัตน์ บุบผา ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่บ้านน้องชมพู่ ที่บ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร อีกครั้ง พบวันนี้บ้านถูกปิดเงียบ ทราบว่า ครอบครัวเดินทางไปทำธุระส่วนตัวที่จังหวัดสกลนคร ทีมข่าวจึงเดินทางไปหาลุงพล ลุงเขยของน้องชมพู่ ถามถึงการเปิดเผยผลชันสูตรศพครั้งแรก ที่น่าเชื่อได้ว่า น้องชมพู่ อาจเสียชีวิตเอง

ลุงพล ยืนยันเป็นไปไม่ได้ที่เด็กวัย 3 ขวบ จะขึ้นไปบนภูเขาสูงเองได้ อีกทั้งสภาพศพเปลือย คิดว่าน้องชมพู่ไม่น่าจะถอดเสื้อผ้าเอง ส่วนตัวจึงยังคิดว่ามีคนทำให้น้องเสียชีวิต ไม่เชื่อว่าน้องชมพู่จะเสียชีวิตเอง

แต่หากตำรวจสรุปคดีในแนวทางนี้ ก็เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ส่วนความสัมพันธ์กับแม่น้องชมพู่ ลุงพลบอกว่ายังไงก็ยังเป็นครอบครัวเดียวกัน ตัวเองไม่ใช่คนใจดำ หากแม่น้องชมพู่ มาขอโทษที่เคยสงสัยว่าลุงเป็นคนทำ ก็พร้อมให้อภัย

สำหรับผลการชันสูตรศพของน้องชมพู่ครั้งแรกอย่างละเอียด แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ได้ชี้แจง ต่อที่ประชุมคณะกรรมกาธิการการกฎหมาย ยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ยืนยันว่า ไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้

โดยจากการผ่าชันสูตรเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม เวลาประมาณ 14.30 น. พบตามร่างกายของน้องชมพู่มีเพียงรอยขูดขีด ที่เกิดขึ้นขณะยังมีชีวิต รอยมด-แมลงเจาะ และรอยเน่า ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย และไม่พบการล่วงละเมิดทางเพศ  คาดว่าน้องเสียชีวิตมา 2-3 วัน อย่างช้าวันที่ 13 พฤษภาคม เวลา 14.30 น. หรืออย่างเร็ววันที่ 12 พฤษภาคม เวลา 14.30น.

ส่วนผลการชันสูตรศพของน้องชมพู่ ครั้งที่ 2 แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ลงความเห็นว่า ไม่พบสาเหตุการตาย แต่มีบาดแผลตามร่างกายและอวัยวะเพศ  ในทางการแพทย์มองว่าผลทางชันสูตรทั้ง 2 ครั้ง ไม่ได้ขัดแย้งกัน แต่ก็ทำให้เกิดความสับสนได้ มองว่า การสืบสวนของตำรวจไม่ถูกต้อง เพราะยึดผลชันสูตรรอบ 2 เป็นหลัก ให้สอดรับกับธงที่ตั้งไว้

กรณีหากน้องชมพู่ เสียชีวิตเอง ตำรวจตั้งข้อสันนิษฐาน ไว้ 3 ข้อ คือ

1. น้องชมพู่ เดินพลัดหลงป่า ขึ้นไปเสียชีวิตบนภูเขา เพราะในวันที่น้องหายไป อุณหภูมิในวันนั้นคือ 42 องศา ซึ่งถือว่าร้อนมาก

2. มีคนพาน้องเดินขึ้นไป และอาจะทำให้น้องเสียชีวิตเองเพราะขาดอาหาร ขาดน้ำ

3. น้องอาจจะเสียชีวิตเองด้านล่างเขา และมีคนนำศพขึ้นไปไว้เพื่อจัดฉากอำพรางคดี

ผ่านมาถึง 62 วัน คดีน้องชมพู่ ล่าสุดมีข่าวปลอม หรือ Fake news จำนวนมาก ทั้งกรณีกล่าวหาพ่อน้องชมพู่ สารภาพว่าเป็นคนทำให้น้องเสียชีวิต เพราะโมโหที่ทำพ่อ-แม่พันธุ์หนูนา ซึ่งซื้อมาคู่ละ 1 หมื่นบาทตาย

นอกจากนี้ ยังมีมิจฉาชีพสร้าง Line ปลอม แอบอ้างเป็นพลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไลน์มาขมขู่ เจรจาให้จ่ายเงินเคลียร์คดี แลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดี จึงฝากเตือนไปยังประชาชนที่ติดตามข่าวคดีน้องชมพู่ ให้ติดตามข่าวอย่างมีสติ โดยเฉพาะการติดตามข่าวจากโซเชียลมีเดีย

ลุงพลไม่เชื่อ "น้องชมพู่" เสียชีวิตเอง พร้อมรับคำขอโทษจากแม่ที่กล่าวหา