ถอนแจ้งความแล้ว คดีชาวบ้านเข้าไปเก็บเห็ดในสถานีเพาะชำกล้าไม้ที่ศรีสะเกษ หลังถูกสังคมถล่มยับ หัวหน้าสถานีฯยันทำตามหน้าที่ เดินมาให้จับเอง ไม่ได้ไปไล่จับ

คดีหญิงวัย 63 ปี 59 ปี และ 36 ปี ถูกตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ควบคุมตัวมาสอบสวน หลังทางสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดศรีสะเกษ แจ้งให้จับกุมข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ และลักลอบเก็บเห็ด เมื่อวานนี้

ล่าสุด นายประธาน ตันรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้ นำพันตำรวจเอกเทพพิทักษ์ แสงกล้า ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ไปดูจุดเกิดเหตุ พร้อมระบุว่า กรณีที่เกิดขึ้น ถือเป็นการเข้ามาลักทรัพย์ซึ่งเป็นเห็ดขมยูคาลิปตัส ซึ่งปกติหากชาวบ้านจะเข้ามาหาของป่าในพื้นที่ จะต้องเขียนคำขอ พร้อมยื่นบัตรประชาชนก่อนตามขั้นตอน

กรณีนี้ ถือเป็นความผิด ซึ่งหน้าต้องจับกุมตามหน้าที่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาว่า จะมีความเห็นว่าอย่างไร ยืนยันว่า ไม่ได้ไปไล่จับ แต่ชาวบ้านเดินเข้ามาให้จับเอง และมีหลักฐานเป็นเห็ดในตะกร้า

ด้านผู้กำกับตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ระบุว่า การลงพื้นที่ไม่พบว่า มีทรัพย์สินทางราชการเสียหาย จากนี้จะเชิญตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาสอบปากคำเพิ่ม เพื่อสรุปข้อเท็จจริงว่า องค์ประกอบเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ขณะนี้ จึงยังไม่มีการดำเนินคดีกับใคร และยังนำข้าวและน้ำมาให้ชาวบ้านทั้ง 3 ด้วย

อีกด้านผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านชาวบ้านทั้ง3 คน ในพื้นที่บ้านบัวระรมย์ ตำบลตองปิด อำเภอน้ำเกลี้ยง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 70 กิโลเมตร พบว่า 2 ใน 3 หญิงชาวบ้านที่ถูกแจ้งจับกำลังคุยกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นางบุญมี อิทธิเดช อายุ 59 ปี ยืนยันว่า จุดเกิดเหตุเป็นป่ายูคาลิปตัสไม่มีรั้วกั้น จึงเดินเข้าไปหาเก็บเห็ดเป็นอาหารประทังชีวิต และยังไม่ได้เก็บก็โดนจับก่อน

ด้านนายธนกฤต อินธิเดช ผู้ใหญ่บ้านบัวระรมย์ รวมถึงทนายความที่มาให้คำแนะนำ เพื่อช่วยเหลือด้านคดีความ บอกว่า ปกติชาวบ้านจะพากันเก็บเห็ดทำอาหารตามปกติ ไม่ได้เก็บขาย ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ประกาศเตือนชาวบ้านแล้ว

ล่าสุด ทางอธิบดีกรมป่าไม้ มีคำสั่งให้สถานีเพาะชำกล้าไม้ถอนแจ้งความแล้ว เพราะยังไม่ครบองค์ประกอบความผิด ประกอบกับเห็ดของกลางไม่ได้มีจำนวนมาก และชาวบ้านยืนยันว่าเห็ดที่ได้มาไม่ใช่เห็ดในพื้นที่ดังกล่าว

จับชาวบ้านเก็บเห็ดขม 7 ดอก ประทังชีวิต