ที่ประชุมชุดใหญ่ ศบค. มีมติให้ผ่อนปรนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในระยะที่ 2 โดยอนุญาตให้เปิดห้างสรรพสินค้า และลดเวลาเคอร์ฟิว

(15 พ.ค. 2563) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันนี้ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาวาระสำคัญคือการผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 2 ตามที่ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอให้ลดเวลาเคอร์ฟิวจากเดิม 22.00-04.00 น. เป็น 23.00-05.00 น. และอนุญาตให้เปิดห้างสรรพสินค้าได้ ยกเว้น โรงภาพยนตร์ และห้องคาราโอเกะ

โดยในที่ประชุมมีมติให้ผ่อนปรนระยะที่ 2 เปิดกิจการ/กิจกรรมเพิ่มเติม เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. 2563 เป็นต้นไป สำหรับกิจกรรมที่จะเปิดเพิ่มเติมมีดังนี้

กิจกรรมด้านเศรษฐกิจ
ก.การจำหน่ายอาหาร/เครื่องดื่ม ในโรงแรม ท่าอากาศยาน แต่ห้ามบริโภคที่ร้าน
ข.ศูนย์การค้า, ห้างสรรพสินค้า ยูนิตี้มอลล์ ให้เปิดบริการได้
*ส่วนที่ให้ปิดต่อ ได้แก่ โรงภาพยนตร์ คาราโอเกะ
ค.ร้านค้าปลีก ค้าส่งขนาดใหญ่

กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย/ความงาม
ก.คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สามารถทำได้เฉพาะเรือนร่าง ยกเว้นการเสริมความงามบนใบหน้า
*ให้ปิดสถานความงามควบคุมน้ำหนัก / สักเจาะ / อาบอบนวด
ค. เฉพาะกีฬา เป็นทีมไม่เกิน 3 คน ไม่มีการปะทะทางร่างกาย (ฟิตเนส เปิดเฉพาะส่วน)
ง.สระว่ายน้ำสาธารณะ แต่ต้องจำกัดจำนวนผู้ใช้ตามจำนวนเลนของการว่าย จำกัดการบริการไม่เกิน 1 ชั่วโมง
*ให้ปิดสนามมวย ยิม

กิจกรรมอื่น ๆ
ก.เปิดการประขุม โรงแรม ศูนย์ประชุม
ข.ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ ฯลฯ
ค.กิจกรรมถ่ายภาพยนต์แลถวิดีทัศน์ รวมทีมงานไม่เกิน 50 คน

ทั้งนี้ ยังคงมาตรการการ
⁃ เดินทางเข้าออกราชอาณาจักร ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ
⁃ ปรับระยะเวลาการห้ามออกนอกเคหะสถาน แต่เป็น 23.00-04.00 น.
⁃ งดหรือชะลอการเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัด