สาววัย 22 ปี พบอาการผิดปกติคือ จมูกไม่ได้กลิ่น กินอาหารไม่รู้รส สุดท้ายกลายเป็นผู้ป่วยโควิดรายที่ 5 ของจังหวัดปราจีนบุรี

(7 เม.ย. 2563) หญิงวัยอายุ 22 ปี ผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เปิดเผยถึงอาการผิดปกติของร่างกาย โดยที่เธอไม่รู้ว่าตัวเองป่วยโควิด-19 จนมารู้ว่าเพื่อนที่เคยร่วมดื่มสังสรรค์ก่อนหน้านี้ป่วยโควิด-19 แล้ว 3 คน จึงเข้าตรวจ

สำหรับประวัติของผู้ป่วยรายนี้ เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา เธอได้เข้าร่วมวงสังสรรค์กับเพื่อนในบ้านพักที่กรุงเทพมหานคร ทั้งดื่มน้ำและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยใช้หลอดร่วมกันกับเพื่อน 4 คน

จากนั้นวันที่ 23 มี.ค. ก็ได้ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร โดยรถยนต์ส่วนตัวกลับมาบ้านที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี สองวันถัดมา เธอก็เริ่มป่วย มีอาการรับรู้ทางประสาทสัมผัสลดลง คือไม่ได้กลิ่นและรับประทานอาหารไม่รู้รสชาติ แต่ระหว่างนั้นก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองป่วยโควิด-19 ยังทำกิจกรรม และเดินทางไปที่ต่าง ๆ ตามปกติ รวมถึงเดินในห้างสรรพสินค้า

จนวันที่ 2 เม.ย ทราบว่ามีเพื่อนที่ร่วมดื่มสังสรรค์ 3 คน ติดเชื้อโควิด-19 จึงสงสัยว่าตัวเองอาจติดเชื้อ และเข้าตรวจโควิด-19 ซึ่งผลออกมาว่าเธอติดเชื้อจริง จึงเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลตั้ง 4 เมษายนที่ผ่านมา นับเป็นผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 5 ของจังหวัดปราจีนบุรี ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้ เข้าตรวจโควิด 19 และประสานกักกันตัวแล้วทั้งหมด

สำหรับอาการสูญเสียการได้กลิ่นเป็นประเด็นสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมีงานวิจัยที่พบว่า ผู้ป่วยโควิด-19 มีอาการสูญเสียการได้กลิ่นมากถึง 2 ใน 3 และในผู้ป่วยที่มีอาการอื่น ๆ (ไอ ไข้ เจ็บคอ) ไม่มาก จะพบว่ามีอาการนี้ถึงร้อยละ 30

ราชวิทยาลัยโสต ศอ นาสิกแพทย์ แห่งประเทศไทย จึงแนะนำแพทย์ให้ความสำคัญ และพิจารณาตรวจโควิด-19 ให้ผู้ป่วยที่มีอาการสูญเสียการได้กลิ่นอย่างเฉียบพลัน หรือผู้มีอาการนี้ขณะอยู่ระหว่างกักตัว รวมทั้งพิจารณางดให้ยาสเตียรอยด์ชนิดกินเพื่อรักษาอาการในผู้ป่วยกลุ่มนี้ด้วย

สาววัย 22 ปี จมูกไม่ได้กลิ่น กินอาหารไม่รู้รส ก่อนพบป่วยโควิด-19