ช้างป่าเพศเมีย อายุ 13 ปี ถูกยิงตายคาสวนปาล์มในพื้นที่อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา เจ้าของสวนอ้างฝูงช้างมากินยอดปาล์ม เข้าไล่แต่ถูกช้างวิ่งเข้าทำร้าย จึงใช้ปืนยิง

ตำรวจ สภ.สนามชัยเขต และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ตรวจสอบเหตุช้างป่าถูกยิงตาย 1 ตัว ภายในสวนปาล์ม บ้านคลองเตย พบซากช้างป่าเพศเมียขนาดใหญ่ นอนตายลักษณะตะแคงอยู่กลางป่าปาล์ม ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบบาดแผลตามตัว มีเพียงรอยเลือดที่โหนกแก้มขวาเพียง 1 แห่งเท่านั้น

สำหรับผู้ก่อเหตุคือ นายตวงพร อายุ 61 ปี เจ้าของสวนปาล์ม ซึ่งยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยอาวุธปืนลูกซองยาว อาวุธที่ใช้ก่อเหตุ ตรวจสอบมีกระสุนปืนยังอยู่อีก 4 นัด เมื่อตรวจสอบที่เกิดห่างจากจุดช้างป่านอนตาย ประมาณ 15 เมตร และ 150 เมตร พบปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันกับที่อยู่ในรังเพลิงตกอยู่ 2 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

เจ้าของสวนปาล์ม ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ปกติตนเองจะมาเฝ้าสวนปาล์มเป็นประจำทุกคืน เพราะมีช้างป่าพยายามเข้ามากัดกินต้นปาล์มเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุช่วงหัวค่ำ ขณะขับรถไถมาถึงชายป่า พบฝูงช้างป่าประมาณ 20 ตัว พยายามจะพากันเดินเข้าสวนปาล์ม จึงใช้ลูกระเบิดปิงปองจุดไล่ช้าง

แต่ช้างฝูงดังกล่าวก็ยังยืนนิ่ง และบางตัวส่งเสียงร้องขู่คำราม ตนเห็นท่าไม่ดีจึงพยายามจะวิ่งหนี แต่ช้างตัวที่ตายพยายามวิ่งเข้ามาหาตนเอง จึงยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าไป 1 นัด และวิ่งหนีออกมา เนื่องจากอยู่ความมืด จึงยิงใส่ไปอีก 1 นัด มาทราบภายหลังว่า ช้างตาย จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านและประสานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ

ด้านสัตวแพทย์หญิง ณฐนน ปานเพ็ชร เปิดเผยว่า ช้างตัวนี้เป็นช้างเพศเมีย อายุประมาณ 13 ปีขึ้นไป น้ำหนักประมาณ 3 ตันเศษ เบื้องต้น พบร่องรอยบาดแผล โดยเฉพาะบริเวณกล้ามเนื้อในช่องปาก และเหนือดวงตาขึ้นไป มีรอยคล้ายถูกกระสุน ซึ่งทั้งหมดต้องผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง

ทั้งนี้ ปกติกระสุนปืนลูกซอง อาจจะไม่ระคายผิวของช้าง แต่เมื่อถูกอวัยวะสำคัญ โดยเฉพาะในช่องปาก ก็อาจจะเป็นเหตุให้ช้างป่าตายได้

ในทางคดี ตำรวจก็จะดำเนินคดีเรื่องการครอบครองอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน แต่ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ก็จะรวบรวมหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา ล่าสัตว์ป่า ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535

สำหรับผู้ก่อเหตุจะกล่าวอ้างว่า เป็นการป้องกันตัวก็แล้วแต่ คงต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน