หนุ่มแชร์ประสบการณ์เตือนภัย! กิน "หลู้ดิบ" จนติดเชื้อในกระแสเลือด จนถึงกับต้องตัดขาทิ้ง 2 ข้าง

เพจเฟซบุ๊ก "บิ๊กเกรียน" ได้โพสต์ข้อความเตือนภัยโดยระบุว่า "เปา นพรัตน์ มิลินทานุช" หนุ่มผู้เคราะห์ร้าย เล่าว่า เมื่อสงกรานต์ ปี 59 กลับบ้านเกิด จังหวัดสุโขทัย จัดงานเลี้ยงสังสรรค์กัน

หลังจากกลับมากรุงเทพฯ เริ่มมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว หนาวสั่น มือเท้าเย็น อาการเริ่มทรุดหนัก ตัดสินใจไปโรงพยาบาล ผลคือ ติดเชื้อในกระแสเลือด อาการเริ่มทรุดหนัก โลหิตเป็นพิษ ไตวายเฉียบพลัน การหายใจล้มเหลว และผิวหนังอักเสบ หากภายใน 48 ชั่วโมง ชีพจรยังไม่ดีขึ้นก็คือไม่รอด

สุดท้าย​ เขา​สูญเสียขาทั้งสองข้าง เนื่องจากเชื้อไปรวมอยู่ที่ปลายเท้า ทำให้เกิดภาวะเนื้อตาย มีลักษณะดำ แข็ง แห้ง ต้องตัดขาออกอย่างเดียว ถึงจะหยุดการแพร่เชื้อได้

เชื้อที่พบคือ เชื้อแบคทีเรีย สเตรปโตค็อกคัส ซูอิส หรือ โรคไข้หูดับ จากการกินเนื้อหมู และเลือดหมูดิบ มีอันตรายมาก เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายคน จะมีระยะฟักตัว 1-3 วัน จึงเริ่มเกิดอาการ​ป่วย ต่อมาเชื้อจะเข้าสู่กระแสโลหิต ทำให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ อาจสูญเสียการได้ยิน ในรายที่มีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

ขณะที่เพจ "Drama-addict" (จ่าพิชิต) โพสต์ให้ความรู้เพิ่มเติมว่า ไม่ใช่แค่หลู้เท่านั้น ยังมีอีกสารพัดเมนู ที่เสี่ยงกับเชื้อพวกนี้ เช่น น้ำตก ซกเล็ก หรือกระทั่งคนที่ไปกินหมูกระทะ ถ้าเอาตะเกียบไปคีบหมูดิบ แล้วเอาตะเกียบนั้นไปคีบหมูสุกเข้าปาก ก็อาจติดเชื้อได้เหมือนกัน

ในปี 61 ที่ผ่านมา มีคนติดเชื้อหูดับสองร้อยกว่าคน และตายไปถึง 26 คน เลยทีเดียว ดังนั้นถ้าไม่อยากเจอแจ๊กพ็อต ควรเอาไปทำให้สุกก่อน ส่วนพวกเมนูที่ใส่เลือดหมูนี่เอาง่ายๆ ทำให้มันเปลี่ยนจากสีแดง เป็นน้ำตาลเข้ม แบบนั้นก็ถือว่าสุกใช้ได้ละ

หนุ่มแชร์ประสบการณ์กิน "หลู้ดิบ" จนติดเชื้อในกระแสเลือด ต้องตัดขา 2 ข้าง