ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เตรียมออกหนังสือแจ้งให้เจ้าของรีสอร์ทบนภูทับเบิก รื้อถอนรีสอร์ทให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หากเลยกำหนด จังหวัดจะส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการรื้อถอน พร้อมทั้งจะเรียกร้องค่ารื้อถอนจากเจ้าของรีสอร์ท โดยเป้าหมายแรกคือรีสอร์ทที

จากกรณีคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 35/2559 เรื่อง มาตรการในการแก้ไขปัญหาการครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินป่าภูทับเบิก ในท้องที่ตําบลวังบาลและตําบลบ้านเนิน อําเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ กําหนดมาตรการในการระงับ ปราบปราม และป้องกันการกระทําการที่มีผลกระทบในพื้นที่ป่าภูทับเบิก เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้มีการเร่งฟื้นฟูป่าภูทับเบิกให้กลับคืนสู่สภาพเดิม รวมทั้งอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ที่มีความสําคัญต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และ สิ่งแวดล้อม

ล่าสุดวันนี้ นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า หลังจากมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 35/2559 ตนก็ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งประกอบด้วยกองพลทหารม้าที่ 1 ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ สำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลก ศูนย์พัฒนาชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ รวมทั้งโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติให้เป็นไปตามคำสั่งดังกล่าว ทั้งนี้ รีสอร์ทบนภูทับเบิกในขณะนี้มีอยู่ จำนวน 95 ราย โดยในจำนวน 95 รายนี้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้แจ้งความดำเนินคดี และศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากพื้นที่แล้ว จำนวน 26 ราย และยังมีอีก 21 รายที่ยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อที่จะได้ทำการส่งฟ้องศาลต่อไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยต่อว่า กลุ่มเป้าหมายแรกที่จังหวัดจะเข้าดำเนินการตามคำสั่ง คสช. ที่ 35/2559 นี้ คือ กลุ่มรีสอร์ทที่ศาลได้มีคำสั่งจนถึงที่สุดแล้ว รวมทั้งอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดที่เห็นว่ามีลักษณะโครงสร้างไม่มั่นคงแข็งแรง ไม่ปลอดภัย ก็จะมีคำสั่งให้ผู้ประกอบการดำเนินการรื้อถอน ทั้งนี้จังหวัดจะทำการออกหนังสือแจ้งไปให้ผู้ประกอบการดังกล่าวทราบภายในอาทิตย์นี้ พร้อมทั้งให้ทำการรื้อถอนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หากพ้นจากนี้จังหวัดจะได้ประสานกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปรื้อถอนให้ พร้อมทั้งเรียกร้องค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนดังกล่าวจากเจ้าของผู้ครอบครองอีกด้วย และจากการที่มีคำสั่ง คสช. ที่ 35/2559 ทำให้การจัดระเบียบและดำเนินการบนพื้นที่ภูทับเบิกเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เพราะที่ผ่านมาถึงแม้จะมีคำสั่งศาลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 แล้ว ผู้ที่เป็นเจ้าของหรือผู้ที่ครอบครอง ก็ยังไม่ได้ปฏิบัติตามแต่อย่างใด แต่กลับมีการขยาย ต่อเติม อย่างต่อเนื่อง โดยไม่หวั่นเกรงต่อกฏหมาย

ด้านนายมา วงศ์ทับเบิก อายุ 52 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านภูทับเบิก และเป็นเจ้าของทับเบิกอินดี้รีสอร์ท หนึ่งในรีสอร์ท 21 รีสอร์ท ที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดด้วยการก่อสร้างรีสอร์ทใหม่ และต่อขยายเพิ่มอย่างไม่ถูกต้อง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากตนได้รับทราบข่าวจากการที่นายกรัฐมนตรีมีคำสั่ง คสช.ที่ 35/2559 ตนเห็นว่าการที่ศาลมีคำสั่งกับรีสอร์ทต่างๆนั้น ก็ให้เป็นเรื่องของกฎหมายไป แต่หากเป็นในส่วนของชาวบ้านที่นำเงินเก็บ รวมทั้งได้ไปกู้เงินมาลงทุน จะให้ทำอย่างไร เพราะเมื่อก่อนนี้ส่วนราชการหลายๆ ส่วนก็เข้ามาให้เลิกปลูกฝิ่น หันมาปลูกกระหล่ำ จากนั้นก็มาบอกว่ากระหล่ำมีสารพิษตกค้างแล้วมาส่งเสริมการท่องเที่ยว พวกตนก็นำเงินเก็บที่มีรวมทั้งไปกู้มาจากธนาคารเพื่อนำมาลงทุนเป็นเงินนับแสนนับล้านบาท

อดีตผู้ใหญ่บ้าน กล่าวทิ้งท้ายว่า “หากรัฐบาลจะมารื้อทิ้งพวกตนก็พร้อมที่จะปกป้องทรัพย์สินของตนเอง ตนอยากจะบอกว่าพื้นที่บนภูทับเบิกบริเวณนี้ก็ไม่มีต้นไม้อยู่แล้ว จะมาบอกว่าพวกตนทำลายป่าไม้ได้อย่างไร ทางที่ดีคนที่มีอำนาจน่าจะมาคุยกับชาวบ้าน เพราะเมื่อก่อนจับปืนสู้กันยิงกันยังกลับมาคุยกันได้ นับประสาอะไรเรื่องแค่นี้จะคุยกันไม่ได้”

 

cr.เอมอร ตันติมาลา//เพชรบูรณ์