นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.แพร่ ติดตามนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เร่งแก้ปัญหาไฟป่า-หมอกควัน ห่วงสุขภาพประชาชน

วันที่ 15 มี.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางไปตรวจราชการจ.เชียงราย และ จ.แพร่ ในวันเสาร์ที่ 16 มี.ค. 2562 เพื่อติดตามมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และป่าชุมชน รวมทั้งร่วมหารือการแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่า

โดยมีภารกิจสำคัญ ดังนี้ ช่วงเช้า นายกรัฐมนตรี จะเข้าเยี่ยมชมผลการดำเนินนโยบายของรัฐบาล เกี่ยวกับการให้การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พบปะผู้สูงอายุและกลุ่มใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ณ มหาวิทยาลัยที่สาม ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ตามอัธยาศัยเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและความสุขผู้สูงอายุรวมถึงการจัดความรู้ด้านสุขภาพโดยภูมิปัญญาท้องถิ่นและสาธารณสุข เน้นการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของผู้สูงอายุ

จากนั้น นายกรัฐมนตรี จะเดินทางต่อไปยังสะพานข้ามแม่น้ำกก เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดสะพานแม่น้ำกก เยี่ยมชมนิทรรศการเส้นทางคมนาคม การก่อสร้างถนนเลี่ยงเมืองตะวันตก สะพานเส้นทางข้ามแม่น้ำกกและความปลอดภัยบนท้องถนน ก่อนจะมอบนโยบายในการปฏิบัติราชการกับข้าราชการและหน่วยงานในพื้นที่ในการแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่า การส่งเสริมลดการเผาพื้นที่เกษตรและเกษตรแปลงใหญ่ ณ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย และช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะเดินทางต่อไปปฏิบัติภารกิจ ณ จังหวัดแพร่ โดยจะเป็นประธานมอบหนังสือแสดงสิทธิโครงการป่าชุมชนให้ผู้แทนชุมชนและมอบสมุดประจำตัวผู้ที่ได้รับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลงรวมให้ประชาชน และติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ณ สนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในวันเดียวกัน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามและห่วงใยสถานการณ์ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ที่ยังคงพบว่าหลายค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และสั่งกำชับให้ส่วนราชการทุกส่วน ทั้งทหารและพลเรือน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เอกชน จัดรณรงค์เพิ่มความชุ่มชื้นและลดค่าฝุ่นละอองในอากาศ รวมถึงการฉีดสเปรย์น้ำบนตึกสูงของภาคเอกชน เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ air4thai.pcd.go.th และแอพลิเคชั่น air4thai