เกิดเหตุรถบรรทุกเกี่ยวสายไฟฟ้าบริเวณถนนจตุโชติ ตัดสุขาภิบาล 5 ส่งผลให้เสาไฟฟ้าล้มกว่า 10 ต้น ทำให้ไฟดับเป็นรัศมี 5 กิโลเมตร
ทหารต้องประกาศให้รถยนต์ที่ใช้ถนนจตุโชติมุ่งหน้าสายไหม เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น หลังเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกดินเกี่ยวสายไฟฟ้าบริเวณถนนจตุโชติ ตัดสุขาภิบาล 5 ย่านสายไหม ทำให้เสาไฟฟ้าล้มต่อเนื่องถึง 12 ต้น และทับรถยนต์ ประชาชนเสียหาย 13 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน แต่โชคดีไม่มีใครบาดเจ็บ
ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรตั้งแต่ซอยสุขาภิ บาล 5 แยก 50 จนถึงหมู่บ้านอรุณธร และบริเวณถนนจตุโชติ ยาวประมาณ 300 เมตร ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก และยังทำให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้างรัศมีประมาณ 5 กิโลเมตร
นางสาวพรชนก อินทอง เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ถูกเสาไฟฟ้าล้มทับ เล่านาทีชีวิตให้ฟังว่า ขณะขี่รถจักยานยนต์ติดไฟแดงบริเวณแยกจตุโชติ ได้ยินเสียงหม้อแปลงระเบิด และเสาไฟฟ้าทยอยล้มลง ด้วยความตกใจ ประกอบกับเสียงชาวบ้านร้องตะโกนให้วิ่งหลบหนี จึงทิ้งรถและรอดจากการถูกเสาไฟฟ้าล้มทับอย่างหวุดหวิด
ด้านนางรัตนธร รัตนสกุล ผู้อำนวยการเขตสายไหม กล่าวว่า สำนักงานเขตสายไหมได้ส่งเจ้าหน้า ที่เทศกิจ เจ้าหน้าที่โยธาเข้าไปในพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรในขั้นต้นก่อน
ขณะเดียวกันได้ประสานการไฟฟ้านครหลวงตัดไฟเพื่อป้องกันอันตราย ซึ่งเสาไฟฟ้าบางส่วนที่ล้มก็ได้ตัดไฟไว้ก่อนแล้ว เพื่อรอการเคลื่อนย้าย ขณะที่บางส่วนที่สามารถเปิดให้ใช้ไฟฟ้าได้ ก็ต่อไฟให้ใช้เลย ส่วนบริเวณที่อยู่ใกล้เคียงตั้งแต่แยกวัชรพลถึงตลาดออเงิน และแยกตลาดวงศกรถึงวัดออเงินนั้น เจ้าหน้าที่แก้ไขให้ใช้ไฟได้หลังเกิดเหตุประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนการเคลื่อนย้ายเสาไฟฟ้าที่ล้ม คาดว่าจะใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการแก้ไขปัญหา เนื่องจากการยกเสาไฟฟ้าต้องใช้รถเครนเข้าไปยก
คาดว่าเวลา 09.00 น. ของเช้าวันนี้ (5 ก.ค.) จะเคลียร์พื้นที่เสร็จสิ้นและเปิดถนนให้ใช้ได้อย่างปกติ
ส่วนประชาชนที่จำเป็นต้องเดินทางไปตลาดวงศกร ให้เลี่ยงไปใช้ถนนรัตนโกสินทร์สมโภช เลี้ยวขวาไปวัชรพล แล้วเลี้ยวขวาไปถนนเพิ่มสิน ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขาภิบาล 5 และหากใช้เส้นทางมุ่งหน้าจตุโชติ ให้ใช้ถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 50 วิ่งออกซอยจตุโชติ 4
ส่วนเรื่องคดีความจะดำเนินคดีกับผู้ขับขี่รถบรรทุก ซึ่งตอนนี้ยังไม่พบตัว แต่จะออกติดตามตัวมาเพื่อสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป