อดีตดำรวจดับเพลิงเชื่อปาฏิหาร "หลวงพ่อคูณ" ทำให้การช่วยเหลือผู้ติดค้างในซากอาคารโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่ถล่มเมื่อปี 2536 รอดชีวิต
ภาพการช่วยเหลือผู้ติดค้างในอาคาร เหตุการณ์โรงแรมรอยัลพลาซ่า จังหวัดนครราชสีมาพังถล่ม เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2536 ยังถูกพันตำรวจโทบุญเรือง แสงดาว วิทยากรด้านสาธารณภัย ที่ในขณะนั้นเป็นตำรวจดับเพลิงและร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยเก็บรักษาไว้อย่างดีเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เขาได้พบปาฏิหาริย์เหรียญหลวงพ่อคูณ
พันตำรวจโทบุญเรืองเล่าว่าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก และต้องทำงานแข่งกับเวลา ระหว่างการช่วยเหลือหลวงพ่อคูณเข้ามาในพื้นที่เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่รวมทั้งแจกเหรียญรุ่นรับเสด็จให้คนที่กำลังทำงาน แต่ตัวพันตำรวจโทบุญเรืองไม่ได้รับเหรียญในวันนั้น จากนั้นผู้สื่อข่าวที่ติดตามเหตุการณ์ถามหลวงพ่อคูณว่าอาคารส่วนที่เหลือจะพังถล่มอีกหรือไม่หลวงพ่อพูดเพียงสั้นว่าว่าไม่พัง และอวยพรให้ทุกคนทำงานให้ปลอดภัย
การช่วยเหลือดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนพบผู้รอดชีวิตคนสุดท้าย อยู่ลึกลงไปใต้ซากอาคารประมาณ 5 เมตร แต่เนื่องจากมีชิ้นส่วนคอนกรีตทำให้ไม่สามารถช่วยขึ้นมาได้ พันตำรวจโทบุญเรืองกับทีมช่วยเหลือจึงพยามใช้หมอนลมซึ่งเป็นอุปกรณ์ทุ่นแรงเข้าไปรองรับชิ้นส่วนที่ทับขาผู้รอดชีวิต แต่เนื่องจากอุปกรณ์มีปัญหาชิ้นส่วนหายไป 1 ชิ้น ทำให้แรงลมไม่เพียงพอที่จะทำให้หมอนลม่พองตัวขึ้น แม้พยายามแก้ปัญหาหลายครั้งก็ไม่สำเร็จ. ระหว่างนั้นมีคนเสนอว่าให้ลองนำเหรียญที่หลวงพ่อคูณให้ไปให้ผู้ติดใต้อาคารก่อนเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ระหว่างนั้นก็พยายามแก้ปัญหาหมอนลมไปด้วย ไม่ถึง 5 นาทีหลังผู้รอดชีวิตได้รับเหรียญหลวงพ่อคูณ อุปกรณ์ที่มีปัญหาก็ทำงานได้ ทั้งที่ชิ้นส่วนยังไม่ครบ จนสามารถช่วยผู้รอดชีวิตได้สำเร็จ เหตุการณ์นี้จึงเป็นขุดเริ่มต้นที่พันตำรวจโทบุญเรืองศรัทธาในตัวหลวงพ่อคูณทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยรู้จักพระรูปนี้มาก่อน
หลังจากช่วยเหลือได้วันรุ่งขึ้นพันตำรวจโทบุญเรืองเข้ากราบหลวงพ่อคูณแสดงความเคารพและได้รับเหรียญรุ่นเดียวกันมาเก็บไว้ จากนั้นก็กลับไปปฏิบัติหน้าที่กู้ซากอาคารต่อ แม้จะพบอุปสรรคจากสภาพอากาศแต่การระลึกถึงบารมีหลวงพ่อคูณก็ทำให้การทำงานในครั้งนั้นผ่านไปด้วยดี นับแต่นั้นจึงพกเหรียญหลวงพ่อคูณติดตัวมาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์พันตำรวจโทบุญเรือง ยังนำคำสอนของหลวงพ่อคูณมาใช้ในการทำงาน โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน รวมถึงการตั้งใจทำหน้าที่วิทยากรถ่ายความความรู้ด้านการกู้ภัยให้คนรุ่นหลังด้วย