"ปิ๊ก ธนิตา" นางแบบ-ดาราอิสระ ฟ้องเอาผิดธนาคารไทยพาณิชย์ หลังถูกแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หลอกถามรหัส โอนเงินจากบัญชีกว่า 50 ครั้ง สูญกว่า 2 ล้านบาท และธนาคารไม่แจ้งเตือนความผิดปกติ ด้านธนาคารชี้แจง หากเป็นความผิดพลาดจากธนาคาร พร้อมรับผิดชอบ

วานนี้ ( 15 พ.ย.) ที่แผนกคดีผู้บริโภค ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก  นางสาวธนิตา จิรพณิช หรือ ปิ๊ก อายุ 35 ปี นางแบบ-นักแสดงอิสระ พร้อมด้วย นายเฉลิมพงษ์ กลับดี หัวหน้ามูลนิธิ เพื่อผู้บริโภค ได้มาเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องแพ่ง ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ฯ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดเรื่องละเมิด และ เรียกทรัพย์คืน

หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างใช้รหัส ยืนยันตัว โอนเงินออกจากบัญชีธนาคาร ผ่านแอพลิเคชั่นของธนาคารเอง จนสูญเงินจากบัญชีไปเกือบ 2 ล้านบาท

นางสาวธนิตา เล่าว่า ปลายปี 2560  ตนเอง ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์ มาหลอกว่า ถูกดำเนินคดีกู้เงินไปซื้อที่ดิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก่อนหลอกพูดคุยเรื่องการทำธุรกรรมทางการเงิน จนถามรหัสยืนยันตัวตน เพื่อเข้าใช้แอพลิเคชั่นธนาคารทางโทรศัพท์

ภายหลัง ทราบว่า เงินในบัญชีที่ฝากไว้กับธนาคารดังกล่าว ถูกโอนไปทั้งหมด 50 ครั้ง ในระยะเวลาเพียง 9 วัน รวมเกือบ 2 ล้านบาท  เมื่อสอบถามไปยังธนาคาร กลับไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ จึงออกมาฟ้องศาลดังกล่าว

เพราะในฐานะผู้ใช้บริการ อยากให้ธนาคาร มีวิธีป้องกัน ที่มีมาตรฐาน โดยเฉพาะหากพบว่า มีการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ ควรต้องรีบแจ้ง หรือ ตรวจสอบกับเจ้าของบัญชี เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้น  และ ทุกครั้งที่มีการเข้าระบบเพื่อทำธุรกรรม ควรมีข้อความ หรือ อีเมล แจ้งมายังเจ้าของบัญชี แต่กรณีนี้กลับไม่มีการดำเนินการใดๆ กระทั่งตนเองมาตรวจสอบบัญชี จึงทราบเรื่อง และสูญเงินจำนวนมากไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำฟ้องโจทก์ บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อเดือน ธันวาคม ปี 2560 กลุ่มคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้หลอกลวงเอาข้อมูลของโจทก์ เช่น หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลเอทีเอ็ม รหัสโอทีพี  แล้วสมัครอินเตอร์เน็ตแบ็งกิ้ง ผ่านแอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนของคนร้าย  แล้วเข้าทำธุรกรรมทางการเงินผ่านแอปพลิเคชั่น โอนเงินออกจากบัญชี ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม ปี 2560 ถึง 4 มกราคมที่ผ่านมา รวม 50 ครั้ง  ครั้งละ 10,000 - 373,000 บาท เสียหายรวม 1,670,200 บาท

จำเลยมีหน้าที่ตรวจสอบ รักษาความมั่นคงปลอดภัยควบคุมการเข้าถึงข้อมูล แต่กลับไม่แจ้งเตือน และ มาทราบภายหลัง จึงแก้ไขระบบอินเตอร์เน็ตแบ็งคกิ้ง  การกระทำของจำเลย ในฐานะผู้รับฝากเงิน ควรใช้ความระมัดระวังตรวจสอบการเข้าถึงข้อมูล แต่กลับไม่ระมัดระวัง ทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ จึงฟ้องแพ่ง ให้จำเลยชดใช้เงินทั้งหมดที่สูญเสียไป พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี รวมเป็นเงินกว่า 1 ล้าน 7 แสนบาท

ทั้งนี้ ศาลรับฟ้องคดีไว้ และ นัดเจรจาไกล่เกลี่ยคู่ความ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ปีหน้า เวลา 9 นาฬิกา

 ล่าสุด ช่วงค่ำที่ผ่านมา  ฝ่ายสื่อสารองค์กร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น ว่า ธนาคารรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ ที่ได้มีมิจฉาชีพหลอกลวงนำข้อมูลเฉพาะบุคคลของลูกค้า เพื่อกระทำการทุจริต

และขอเรียนว่า ธนาคาร มิได้เพิกเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ได้มีการตรวจสอบข้อมูล และ อำนวยความสะดวกกับลูกค้า ในการให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาโดยตลอด จนกระทั่งสามารถติดตามจับคนร้ายได้

อย่างไรก็ตาม ทางธนาคาร จะไม่นิ่งนอนใจ ที่จะรับฟังและหาทางแก้ไขต่อไป  โดยในส่วนของ นางสาวธนิตา ธนาคารพร้อมที่จะดูแลให้ความช่วยเหลือลูกค้า รวมถึง รับผิดชอบ หากมีกรณีใดที่เกิดจากความบกพร่อง หรือ ผิดพลาดของธนาคารฯ และ จะประสานพูดคุยกับ นางสาวธนิตาโดยเร็ว

 

***เรื่องดังกล่าวต้องรอกระบวนการในชั้นศาล เป็นผู้พิจารณาว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

ดาราสาว ฟ้องธนาคาร ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงิน 2 ล้าน