ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุทัยธานี แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวกางเต็นท์นอนรับลมหนาว ระวังภัยจากไข้มาลาเรียและไข้รากสาดใหญ่ หากมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ หนาวสั่น หรือมีแผลคล้ายรอยบุหรี่จี้ ให้รีบพบแพทย์ทันที
นพ.สุรชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุทัยธานี ออกมาเตือนนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางไปสัมผัสอากาศหนาวเย็นตามแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ โดยตั้งแคมป์และนอนกางเต็นท์กลางป่า ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวมีโอกาสถูกยุงกัดเสี่ยงต่อการป่วยเป็นไข้มาลาเรีย เนื่องจากยุงก้นปล่องที่นำเชื้อมาลาเรีย
โดยอาการจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ หนาวสั่นสลับร้อน เหงื่อออก รู้สึกสบายแล้วกลับมาเป็นไข้ใหม่อีกครั้ง ให้ผู้ป่วยมีอาการดังกล่าวสันนิษฐานไว้ก่อนว่า ป่วยเป็นไข้มาลาเรีย พร้อมรีบไปพบแพทย์เจาะเลือดตรวจหาเชื้อมาลาเรีย และต้องแจ้งประวัติการเข้าป่าหรือไปบริเวณพื้นที่เสี่ยงให้แพทย์ทราบด้วยเพื่อให้การรักษารวดเร็ว
นอกจากนี้ การกางเต็นท์ หรือตั้งแคมป์ในป่าให้ระมัดระวังตัวไรอ่อน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคไทฟัส หรือไข้รากสาดใหญ่ อาการจะมีไข้สูง ตัวร้อนจัด หนาวสั่น ปวดศีรษะอย่างรุนแรง อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตัว ปวดกระบอกตา บางรายจะมีแผลคล้ายถูกบุหรี่จี้มีสีแดงคล้ำเป็นรอยบุ๋มแต่ไม่คัน และผู้ป่วยประมาณร้อยละ 20 อาจมีอาการแทรกซ้อนอย่างรุนแรง เช่น ปอดอักเสบ สมองอักเสบ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
ดังนั้น การไปเที่ยวป่ากางเต็นท์นอนควรเลือกที่ตั้งค่ายพักในบริเวณโล่งเตียน หลีกเลี่ยงการนั่ง และนอนบนพื้นหญ้า แต่งกายให้มิดชิด สวมถุงเท้าหุ้มไปจนถึงปลายขากางเกง ทายากันยุง และยาป้องกันแมลงกัดตามแขนขา และควรสังเกตอาการของตนเอง หากกลับจากเที่ยวป่ากางเต็นท์นอนภายใน 2 สัปดาห์และพบมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์ทันที