พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล เผย พยานหลักฐาน ทั้งที่เกิดเหตุ และ นิติวิทยาศาสตร์ ยืนยัน การเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนที่น้ำตกโตนงาช้าง จ.สงขลา เป็นการฆาตกรรมแน่นอน มีผู้ร่วมก่อเหตุมากกว่า 1 คน และ วางแผนกันมาอย่างดี
จากกรณี พบศพนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน เสียชีวิตอยู่บริเวณแอ่งน้ำชั้น 1 น้ำตกโตนงาช้าง ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยพบกระเป๋า และ ของใช้ส่วนตัวถูกทิ้งอยู่ในถังขยะ ขณะที่ โทรศัพท์มือถือ ถูกพบทิ้งอยู่ในน้ำ สภาพถูกถอด ซิมการ์ดออกไป รวมทั้งพาสปอร์ตที่ถูก ฉีกทิ้ง ต่อมาตำรวจเชิญตัว ชายชาวจีน อายุ 40 ปี ผู้ต้องสงสัยมาสอบสวน
ขณะที่ ญาติเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตำแหน่งในขณะนั้น คือ รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว) ช่วยคลี่คลายคดี โดยเชื่อว่า เป็นคดีฆาตกรรม
ล่าสุด วานนี้ พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล ระบุว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐาน ทั้งทางนิติวิทยาศาสตร์ และ ที่เกิดเหตุ พบว่า เป็นการฆาตกรรมอย่างแน่นอน เนื่องจากผู้เสียชีวิต ได้เสียชีวิตก่อนจะจมน้ำ และล่าสุดเชื่อว่า สาเหตุน่าจะมาจากประเด็นชู้สาว จากการสันนิษฐานของ เจ้าหน้าที่ คาดว่า ผู้ตาย อาจมีพฤติกรรมคุยกับผู้ชายหลายคน จนเป็นเหตุให้มีความขัดแย้ง เกิดความหึงหวง จึงได้มีการวางแผนก่อเหตุ นอกจากนี้คาดว่ายังมี ผู้ร่วมกระทำความผิดมากกว่า 1 รายด้วย
ขณะนี้ ตำรวจได้ควบคุมตัวเพื่อนชาย ผู้ต้องสงสัยที่เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับผู้ตาย ไว้ โดยพบพฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุชายคนดังกล่าว เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และได้เข้าพักโรงแรมเดียวกันกับผู้ตาย ที่ จ.สงขลา วันเกิดเหตุชายคนดังกล่าว ได้นัด ผู้ตาย ไปยังที่จุดเกิดเหตุ และ เดินทางไปถึงน้ำตก ก่อนเวลานัดหมายประมาณ 4 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงเกิดเหตุการณ์ขึ้น
อีกทั้งหลังการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวสาว ชายคนดังกล่าว หนีไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ใน จ.กระบี่ ก่อนถูกตำรวจเชิญตัวมาสอบสวน และ ควบคุมตัวไว้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เบื้องต้นยังคงให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้รู้จักกับผู้ตาย เป็นการส่วนตัว และ ได้ถูกเพิกถอนวีซ่า ตาม พ.ร.บ.สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้ว
พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ ยังบอกอีกว่า นอกจากนี้ ตำรวจได้ประสานไปยังสถานทูตจีน ประจำประเทศไทย เพื่อหาข้อมูลติดตามตัวผู้ต้องสงสัยอีก 1 ราย ที่หนีกลับไปยังประเทศจีนแล้ว โดยผู้ต้องสงสัยคนนี้ เป็นเพื่อนกลุ่มเดียว กับ ผู้ตาย โดยก่อนเกิดเหตุเดินทางมาประเทศไทย พร้อมกับมีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้ตาย และ ไปมาหาสู่กันอีกด้วย
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ประสานงานเพื่อขอพูดคุยกับผู้ต้องสงสัยคนนี้ ก่อนจะเชิญตัวมาที่ประเทศไทย เพื่อสอบปากคำ เชื่อว่าภายใน 2 อาทิตย์ พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวไว้ได้ รวมถึงจะเร่งติดตามผู้ต้องสงสัยที่หนีออกนอกประเทศมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป