พบเห็ดรูปร่างประหลาดและหายาก 5 ชนิด ติดอันดับโลก ขึ้นอยู่บนซากขอนไม้ภายในวัดศรีพุทธโคดม จ.อุตรดิตถ์ เตรียมอนุรักษ์พันธุ์และตั้งศูนย์ศึกษา ชูเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้วัดและชุมชน

ที่วัดศรีพุทธโคดม หมู่10 ต.น้ำอ่าง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ พระมนูเมศ อนาลโย ประธานสงฆ์วัดศรีพุทธโคดม พาผู้สื่อข่าวชมเห็ดแปลกประหลาดอาทิ เห็ดดาวดิน เห็ดรังนกกระจอก เห็ดเขียงไม้ เห็ดหิ้งพระและเห็ดไร้ชื่อ ขึ้นรวมกันอยู่บริเวณกองเศษไม้ตายซากภายในวัด บนเนื้อที่ดินจำนวน 35 ไร่ ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์และความชุ่มชื้นจากต้นไม้หลากหลายพันธุ์ไม้ชนิดในพื้นที่

"เห็ดรังนกกระจอก" แก่ตัวและแห้งตายแล้ว อาศัยอยู่บนเปลือกไม้ซากท่อนไม้มะกอกป่าที่ตายแล้ว ยังคงรูปร่างดอกเห็ดรวมกันเป็นกลุ่ม ภายในดอกเห็ดแต่ละดอก จะเห็นคล้ายลูกนกกระจอกจำนวนหลายตัวอาศัยอยู่ภายในรัง กำลังอ้าปากรอรับอาหารจากแม่นก เป็นภาพที่สวยงามมาก ทั้งที่เป็นเพียงแค่ซากเห็ดที่ตายแล้ว หากได้เห็นภาพเห็ดรังนกกระจอกที่ยังไม่เหี่ยวแห้งตายคงจะสวยงดงามกว่านี้มาก

"เห็ดหิ้งพระ" เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายหิ้งพระ อยู่ตระกูลเดียวกับ "เห็ดหลินจือ" แต่มีขนาดเล็กกว่าขึ้นเรียงรายอยู่บนซากขอนไม้จำนวนมาก ชาวบ้านเชื่อว่าสามารถรักษาโรคมะเร็งได้

"เห็ดเขียงไม้" พบในบริเวณใกล้กัน ดอกเห็ดมีลักษณะแปลกแตกต่างจากเห็ดทั่วไป จำนวน 2 ดอก ดอกแรกกลม ดอกที่สองบานออกเป็นก้อนสี่เหลี่ยมตัดเหมือน"เขียงไม้" บริเวณโคนเห็ดติดกับขอนไม้ที่ผุแล้ว ไม่พบเห็นก้านเหมือนเห็ดทั่วไป และไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน พบเจอภายในวัดเป็นครั้งแรก ไม่ทราบชื่อเห็ดชนิดนี้เรียกกันว่าอะไร จึงมีการเรียกตามลักษณะของเห็ดที่พบเห็นว่า "เห็ดเขียงไม้"

"เห็ดดาวดิน" พบบริเวณรากต้นขนุนตายแล้ว อยู่ด้านหลังของกุฏิพระมนูเมศ อนาลโย ประธานสงฆ์วัดศรีพุทธโคดม มีชนิดกลมจำ นวนหลายดอกผุดขึ้นมาอยู่บนดินและยังพบเห็ดดาวดินที่แก่ตัวแตกออกเป็นแฉกคล้ายดาวหรือกลีบดอกไม้ลักษณะบานอยู่แต่ตายแล้ว รวมจำนวนทั้งสิ้น 15 ดอก กระจายทั่วบริเวณพื้นที่ สำหรับเห็ดดาวดินนี้เป็นเห็ดที่มีรูปร่างคล้ายกับเห็ดเผาะหรือเห็ดหอบ ที่ชาวบ้านชอบนำไปทำอาหาร แต่แตกต่างกันที่เห็ดเผาะจะอาศัยซากของรากต้นไม้เต็ง ต้นไม้รังและต้นไม้ยางนา เป็นเห็ดชนิดหายากที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก

นอกจากนี้ ยังพบเห็ดลักษณะลูกกลมเหมือนเห็ดหอบ อาศัยอยู่บริเวณโคนรากต้นยางนา มีหัวบิดเบี้ยวไม่มีดอกเหมือนเห็ดชนิดอื่น โผล่ส่วนหัวออกมาจากดิน ส่วนลำต้นหรือก้านดอกฝังอยู่ใต้ดินติดกับรากฝอยต้นยางนา โดยอยู่ลึกประมาณ 3 เซนติเมตร เมื่อแก่ตัวใช้มือบีบแตกออกจะมีฝุ่นละอองของสปอร์สีเทาฟุ้งออกมา และไม่ทราบชื่อเห็ดชนิดนี้ เช่นเดียวกับ "เห็ดเขียงไม้" เบื้องต้นตั้งว่า "เห็ดไร้ชื่อ" คงต้องสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านเห็ดโดยตรงว่าชื่ออะไร

พระมนูเมศ กล่าวว่า เท่าที่ได้มีการศึกษาเรื่องเห็ดมีขึ้นเองตามธรรมชาติ อาศัยรากฝอยของต้นไม้ใหญ่และขอนไม้ที่ตายแล้ว การย่อยสลายของใบไม้ กิ่งไม้จะเป็นอาหารที่เห็ดชอบ เห็ดบางชนิดขึ้นอยู่กับจอมปลวกจะเรียกว่าเห็ดโคนหรือเห็ดปลวก เห็ดชนิดอื่นมีมากมายทั้งกินได้และไม่ได้ ต้องเลือกศึกษาดูว่าอย่างไหนกินได้หรือไม่ได้ "เห็ดดาวดิน" เคยถูกจัดอยู่ในประเภทเดียวกับเห็ดเผาะหรือเห็ดหอบ ปัจจุบันถูกแยกออกมาอย่างชัดเจน โดยให้เห็ดดาวดินอยู่อีกจำพวกหนึ่งเป็นกลุ่มคนละสกุลกัน เห็ดดาวดินเมื่อแก่ตัวจะแตกออกเป็นรูปแฉกดาว

พระมนูเมศ กล่าวด้วยว่า เห็ด "รังนกกระจอก" เป็นเห็ดที่พบใหม่ในพื้นที่วัด มีขนาดเล็กเกาะกันเป็นกลุ่มคล้ายรังนกกระจอก ขึ้นอยู่กับเปลือกไม้ต้นมะกอกป่า เห็ดหิ้งพระหรือเห็ดหิ้ง อยู่ในตระกูลเดียวกับเห็ดหลินจือ ชาวบ้านเชื่อแก้โรคมะเร็งได้ ส่วนเห็ดชนิดไร้หัวขึ้นกับขอนไม้ผุ เป็นก้อนสี่เหลี่ยมตัดเหมือนเขียงไม้ ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน รวมถึงเห็ดที่มีลักษณะเหมือนเห็ดหอบลูกกลมมีหัวบิดเบี้ยวไม่มีดอกเหมือนเห็ดทั่วไป

เห็ดแปลกประหลาดหลายชนิดที่พบนั้น เกิดจากความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้พื้นที่ ทำให้พบเห็นเห็ดที่แปลกประหลาดหลายชนิดเกิดขึ้นภายในวัด เมื่อตายแล้วเชื้อสปอร์คงยังคงอยู่เชื่อในปีต่อไปคงได้พบเห็นอีก ทางวัดจะอนุรักษ์ให้เป็นศูนย์สำหรับศึกษาพันธุ์เห็ดแปลกประหลาดและหายาก พร้อมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของวัดและคนในชุมชนต่อไปในอนาคต

 

Cr.สมภพ/อุตรดิตถ์