ชาวบ้านเตาไห จังหวัดกาฬสินธุ์ แระสบความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังแขวงการทางจังหวัดกาฬสินธุ์ ขยายถนนบุกรุกเขตที่พักอาศัย เผยเคยร้องขอความเป็นธรรมแล้ว แต่กลับถูกข่มขู่ ต้องกลับมา จนต้องอยู่กันอย่างหวาดผวา
ตัวแทนชาวบ้านเตาไห ตำบลหลุบ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จำนวน 7 คน นำคณะสื่อมวลชน เข้าตรวจสอบแนวก่อสร้างขยายผิวถนนและวางท่อบำบัดน้ำเสีย ที่กินพื้นที่เข้าไปในชายคาและตัวบ้าน รวมทั้งสถานที่ประกอบการร้านค้า เป็นเหตุให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างน้อย 35 ครัวเรือน
นายสุจิตร ชนะศึก ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ทุกวันนี้ตนกับเพื่อนบ้าน ซึ่งมีทั้งลูกหลาน คนป่วย คนแก่ เด็กเล็ก ที่อาศัยอยู่ติดกับถนนสายกาฬสินธุ์-กมลาไสย ช่วงตรงข้ามวัดทัศนารามเตาไห ต่างกินไม่ได้นอนไม่หลับมากว่า 2 เดือนแล้ว ตั้งแต่แขวงการทางจังหวัดกาฬสินธุ์ นำเครื่องจักรกลหนักมาทำการขุดรื้อผิวถนนเพื่อวางท่อบำบัดน้ำเสีย และขยายแนวเขตเสาไฟฟ้า โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่ากับชาวบ้านถูกเจ้าหน้าที่รัฐไล่ที่ ทั้งๆ ที่อยู่กันมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ มีโฉนดทุกครัวเรือน จึงได้รวมตัวทักท้วง ก่อนที่แขวงการทางฯ จะเรียกประชุมชี้แจงว่าจะมีการก่อสร้าง
โดยแจ้งให้ชาวบ้านที่มีที่พักอาศัยในแนวเขตดังกล่าว ให้รีบรื้อถอนที่พักออกจากบริเวณที่จะก่อสร้าง ซึ่งจะได้รับการชดเชยเป็นค่าเวนคืน หากไม่เช่นนั้นจะถูกรถแบ็คโฮขุดทิ้ง ซึ่งการที่ทางเจ้าหน้าที่แขวงการทางฯ พูดเช่นนี้ ทางชาวบ้านต่างมีความเห็นว่า ไม่ต่างกับการข่มขู่รังแกชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำ
จึงร่วมกันลงชื่อขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรม แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีการดำเนินการแก้ไข รวมถึงยังไม่เคยได้รับเงินชดเชยตามที่สัญญาไว้ด้วย จนชาวบ้านบางรายถึงกับประชดด้วยการรื้อบ้านตัวเองและประกาศขายที่แล้ว ทั้งนี้ตัวแทนชาวบ้านยังได้เรียกร้องไปยังอธิบดีกรมทางหลวง สตง. และ ปปช.ให้มาตรวจสอบโครงการนี้ด้วย เพราะเห็นมีการก่อสร้างซ้ำซากทุกปี
โดยเฉพาะปีนี้ที่ทราบว่ามีงบประมาณก่อสร้างถึง 13 ล้านบาท ยังทำความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก เนื่องจากบุกรุกที่พักอาศัย บางคนประชดด้วยการทุบบ้านทิ้ง ขณะที่บางคนประกาศขายบ้านพร้อมที่ดิน ถือเป็นความเดือดร้อนจากการกระทำขององค์กรรัฐที่น่าเจ็บปวดมาก