เกษตรกรปรับเปลี่ยนพื้นที่สวนยางหันมาเลี้ยงกุ้งล็อบเตอร์น้ำจืด หรือกุ้งก้ามแดง ซึ่งเป็นกุ้งที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว กินอาหารน้อย ราคาสูง สร้างรายได้มากกว่าการทำสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันหลายเท่าตัว
นายพงษ์ศักดิ์ จิตรใจภักดิ์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 5 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง ได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ ที่เคยทำสวนยางพาราเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เศษ เพื่อหันมาเพาะเลี้ยงกุ้งล็อบเตอร์น้ำจืดหรือกุ้งก้ามแดง ซึ่งเป็นกุ้งที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว กินอาหารน้อย สามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ่อปูนซีเมนต์ ในกะลามัง ในบ่อดินหรือในนาข้าว เหมาะสำหรับเกษตรกรที่กำลังมองหาอาชีพเสริมที่ไม่ต้องใช้เวลามากและไม่ยุ่งยากใดๆ เนื่องจากกุ้งล็อบเตอร์จะออกมาหากินในเวลากลางคืน จึงให้อาหารแค่วันละครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเศษปลา กุ้งฝอยตัวเล็ก ๆ และไข่แดง
หากซื้อพ่อแม่พันธุ์อายุตั้งแต่ 4-5 เดือนก็สามารถเลี้ยงต่อไปอีกประมาณ 1 เดือน จะได้ลูกกุ้งล็อบเตอร์รุ่นแรกไม่ต่ำกว่า 100 ตัว ต่อ 1 คู่ หากเลี้ยงต่อไปอีก 7 วันจะสามารถขายลูกกุ้งได้ตัวละ 7 บาท และราคาลูกกุ้งจะสูงขึ้นเมื่อมีอายุมากขึ้น โดยกุ้งอายุ 3 เดือนราคาคู่ละ 400 บาท อายุ 5 เดือนคู่ละ 500 บาท เมื่อครบ 6-7 เดือนสามารถขายเป็นพ่อแม่พันธุ์หรือกุ้งเนื้อได้ในราคากิโลกรัมละ 1,200 บาท สร้างรายได้มากกว่าการทำสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันหลายเท่าตัว ทั้งยังไม่เสี่ยงกับสภาพดินฟ้าอากาศหรือราคาที่ไม่ตกต่ำ ตลาดยังกว้าง คนเลี้ยงยังน้อยมาก จึงเป็นโอกาสทองของเกษตรกรที่คิดใหม่ทำใหม่โกยเงินเข้ากระเป๋าได้อย่างสบายเดือนละไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท
ซึ่งขณะนี้เกษตรกรมีลูกกุ้งล็อบเตอร์ที่พร้อมจำหน่ายในราคาตั้งแต่ตัวละ 7 - 300 บาทอยู่มากกว่า 1,000 ตัว และกำลังขยายบ่อเลี้ยงกุ้งล็อบเตอร์น้ำจืดออกไปอีกหลายบ่อเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ซึ่งนอกจากจะเลี้ยงเพื่อการส่งขายเนื้อแล้ว ยังสามารถนำไปเลี้ยงในตู้ปลาเพื่อความสวยงามได้อีกทางหนึ่งด้วยเนื่องจากมีก้ามสีแดงแกมน้ำเงินเข้ม สร้างสีสันให้กับตู้ปลาได้เป็นอย่างดี ส่วนเกษตรกรรายใดสนใจสามารถไปศึกษาดูงานได้ที่หมู่ที่ 5 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 091-805-8829
cr.ธรรมรัตน์ หนองตรุด/ตรัง