ปฏิบัติการกู้ภัยเขื่อนแตกที่ลาว เข้าสู่วันที่ 7 กู้ภัยเผยภายโคลนจำนวนมหาศาล เป็นอุปสรรคในการช่วยเหลือ
สำนักข่าว เอบีซี ของลาว เผยแพร่การทำงานวันที่ 7 ของเจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย ที่ยังคงปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย และช่วยเหลือผู้รอดชีวิต หลังประสบภัยน้ำท่วมในแขวงอัตตะปือ ของ สปป.ลาว จากเหตุเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตกพังทลาย จนมวลน้ำมหาศาล ทะลักท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชน จนเกือบมิดหลังคา
ล่าสุด แม้ว่าระดับน้ำลดลงหลายพื้นที่ แต่จากภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ จะเห็นได้ว่า บางจุดระดับน้ำยังท่วมสูงถึงเอว และมีอุปสรรคของดินโคลนเพิ่มเข้ามา ซึ่งปัญหานี้ ส่งผลให้ทีมกู้ภัยลาวและนานาชาติ ทำงานลำบากขึ้น เพราะเป็นความลึกที่หยั่งไม่ได้
ซึ่งสมาชิกผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ "อัญวุฒิ โพธิ์อำไพ" หนึ่งในทีมกู้ภัย ยังได้โพสต์ภาพเส้นทางการเข้าช่วยเหลือผุ้ประสบภัย ซึ่งจะเห็นได้ว่า ตลอดเส้นทางมีแต่โคลนตม
ขณะที่ สำนักข่าวเวียงจันทน์ ไทม์ รายงานว่า บางแห่งโคลนท่วมสูงกว่า 10 เมตร ทำให้บ้านและวัดหลายแห่ง ถูกฝังอยู่ใต้โคลน และเชื่อว่า จะมีร่างของผู้ประสบภัยถูกฝังอยู่ใต้ซาก
ส่วนการช่วยเหลือ มีทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยระดมปฏิบัติภารกิจเพิ่มขึ้น เป็น 31 ทีม 180 คน โดยส่วนใหญ่เป็นทีมกู้ภัยจากไทย และมีทีมกู้ภัยจีนบางส่วน และอาสาสมัครทางการแพทย์ และอาสาสมัครช่วยเหลือด้านอื่นๆ
ทั้งนี้ เกาหลีใต้ ยังได้จัดส่งอุปกรณ์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย เดินทางมาสนับสนุนช่วยเหลือเพิ่มเติม ซึ่งเดินทางมาถึงเมื่อช่วงเย็นวานนี้
ขณะที่นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรี ของสปป.ลาว เปิดเผยระหว่างตรวจเยี่ยมการบริจาคปัจจัยบรรเทาทุกข์ ของกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมว่า รัฐบาลลาวจะทำงานร่วมกับไทยและเกาหลีใต้ เพื่อสอบสวนหาสาเหตุการพังของเขื่อนย่อยในโครงการ โดยให้คำมั่นว่า จะมีการตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียด และดำเนินอย่างโปร่งใส