แม่ทัพภาคที่ 2 เผย ทางการไทย เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เหตุเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตก ที่ สปป.ลาว อย่างเต็มที่ พร้อมจัดตั้งศูนย์บริจาค 20 จังหวัดภาคอีสาน ส่วน "หมอภาคย์" ฮีโร่ถ้ำหลวง เตรียมพร้อมลงพื้นที่ประสบภัย หากทางการ สปป.ลาว ร้องขอความช่วยเหลือ

วานนี้ (29 กรกฎาคม) พลโท ธรากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยกรณีเกิดอุทกภัย เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตก ที่แขวงอัตตะปือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ทำให้เกิดน้ำท่วมในเมืองสะหนามไช ว่า

ตอนนี้ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน ในภาคอีสานให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยตั้งแต่เกิดเหตุเป็นต้นมาได้สั่งการทั้งฝ่าย พลเรือน ตำรวจ ทหาร และภาคประชาชน ให้การช่วยเหลือ โดยจัดตั้งศูนย์รับบริจาคให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในแขวงอัตตะปือและแขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทั้ง 20 จังหวัดในภาคอีสาน แล้วนำส่งไปรวบรวมที่ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี เพื่อส่งให้ผู้แทน สปป.ลาว ผ่านจุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก นำไปแจกจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวลาวต่อไป

ขณะเดียวกัน ได้จัดตั้งศูนย์ให้การช่วยเหลือฯ ณ ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี โดยเจ้าหน้าที่ จะประชุมสรุปผลการปฏิบัติงาน ประจำวัน และ ชี้แจงแผนทุกวันเวลา 15.00 น.

แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า จากการประสานความช่วยเหลือ ล่าสุด สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 ศูนย์สุขภาพจิต กลุ่มงานการแพทย์ฉุกเฉิน (EMS) ร่วมกับ ศูนย์ความร่วมมือทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขระหว่างประเทศ / ทีมปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ (MCAT) และ ทีมแพทย์สนามฉุกเฉิน (MERT) จังหวัดอุบลราชธานี รวม 25 คน ได้เดินทาง เข้าไปให้การช่วยเหลือประชาชนที่ สปป.ลาว แล้ว

โดยเจ้าหน้าที่ จัดเตรียมชุดเวชภัณท์ สำหรับผู้ประสบภัย และ สิ่งของที่จำเป็น เพื่อให้การบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้น พร้อมกันนี้ มีการเตรียมทีมแพทย์สนามฉุกเฉิน เพิ่มอีก จำนวน 3 ทีม ที่พร้อมออกปฎิบัติการทันที เมื่อมีคำสั่ง

นอกจากนี้ กองทัพภาคที่ 2 ยังจัดกำลังพลและยานพาหนะสนับสนุนการขนย้ายสิ่งของบริจาคจากจังหวัดต่างๆ ไปยังจุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี เพื่อเตรียมส่งมอบไปยัง สปป.ลาว

ส่วนทีมงาน และผู้เชี่ยวชาญ ที่เคยส่งไปช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี่ ที่จังหวัดเชียงราย รวมถึง พันโทนายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จังหวัดนครราชสีมา ยังคงเตรียมพร้อม จะเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที หากทางการ สปป.ลาว ร้องขอ

ขณะที่ ชาวไทยทั่วประเทศ ยังระดมความช่วยเหลือ และบริจาคสิ่งของบรรเทาทุกข์ ไปให้กับผู้ประสบภัยที่ สปป.ลาว วานนี้ (29 กรกฎาคม) นอกจาก ชาวขอนแก่น และ นักท่องเที่ยว ทำบุญเนื่องในวันเข้าพรรษาประจำปี 2561 แล้ว ประชาชนยังรวมตัวกันที่ วัดหนองแวงพระอารามหลวง หรือ วัดพระธาตุ 9 ชั้น ได้ร่วมกัน บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย

โดยจุดรับบริจาค ที่วัดหนองแวง ขณะนี้มียอดบริจาคแล้วกว่า 7 หมื่นบาท ซึ่งทางวัด จะนำเงินไปมอบให้กับกงสุลใหญ่ สปป.ลาว ประจำจังหวัดขอนแก่น เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ที่สปป.ลาว ต่อไป

ส่วนที่ บริเวณหน้าศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ชน 4 เผ่าไทศรีสะเกษ ประกอบด้วย เผ่า ลาว เยอ ส่วย และ เขมร นำเอาข้าวสาร อาหารแห้ง เสื้อผ้า น้ำดื่ม น้ำผลไม้ ที่นอนหมอนมุ้ง จำนวนมาก มาบริจาคเพื่อช่วยเหลือชาวลาว ในแขวงอัตตะปือ และจำปาสัก

โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ รับบริจาคและคัดแยกสิ่งของ จากนั้น ได้ทำการปล่อยขบวนรถบรรทุก 10 ล้อรอบแรก จำนวน 5 คัน นำสิ่งของที่ได้รับบริจาค ส่งไปที่จุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี

ซึ่งหลังเกิดเหตุเขื่อนเซเปียน เซน้ำน้อยแตก จนน้ำทะลักไหลเข้าท่วมบ้านเรือนพี่น้องชาวลาว ประชาชนในจังหวัดศรีษะเกษ ก็ร่วมกันระดมความช่วยเหลือ บริจาคเงินและสิ่งของ โดยมียอดเงินบริจาคจนถึงขณะนี้ 900,000 บาทเศษ

สำหรับ ประชาชนชาวศรีสะเกษ ที่ต้องร่วมบริจาคสิ่งของเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ศรีสะเกษ และ ที่ศูนย์ดำรงธรรมทั้ง 22 อำเภอของ จ.ศรีสะเกษ

ต่อกันที่ จังหวัดนครราชสีมา ที่มูลนิธิกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถานนครราชสีมา ทหารจากมลฑลทหารบกที่ 21 ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิจำนวน 60 คน ช่วยกันคัดแยกประเภท และบรรจุสิ่งของอุปโภค บริโภคต่างๆ ที่ชาวจังหวัดนครราชสีมานำมาบริจาค

พร้อมลำเลียงขึ้นรถบรรทุกของกองทัพภาคที่ 2 และรถบรรทุกพ่วง รวม 6 คัน เพื่อส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย แตกที่แขวงจำปาสัก สปป.ลาว โดยผ่านทางช่องจอม อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี

โดยในวันนี้ (30 กรกฎาคม) ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมืองนครราชสีมา เวลา 09.00 น.นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาจะเป็นประธานปล่อยขบวนรถบรรทุกสิ่งของบริจาค พร้อมเป็นตัวแทนชาวนครราชสีมามอบเงินบริจาคจากประชาชน ให้กับรัฐบาล สปป.ลาว กว่า 4 แสนบาท นำไปช่วยเหลือประชาชนชาว สปป.ลาว ที่ได้รับความเดือดร้อน

ต่อกันที่ จังหวัดอุทัยธานี เทศบาล เมืองอุทัยธานี เปิดศูนย์รับบริจาคเงิน สิ่งของ ข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องนุ่งห่ม โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประชาชน และนักท่องเที่ยว ในจังหวัดอุทัยธานี เดินทางนำสิ่งของ และเงิน
มาบริจาค เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่สปป.ลาว กันอย่างล้นหลาม

โดยศูนย์รับบริจาค ที่จังหวัดอุทัยธานี เปิดรับบริจาคไปจนถึงเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (30 กรกฎาคม) จากนั้น จะรวบรวม คัดแยก และมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี เพื่อให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี ขนย้าย ส่งผ่านให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ไปยัง สปป.ลาว เพื่อมอบให้ผู้ประสบภัยทันที

ส่วนอีกหนึ่งข่าวเศร้า เฟซบุ๊กสำนักข่าว เอบีซี ลาว นิวส์ (ABC Laos news) รายงานว่า เกิดอุบัติเหตุ รถบรรทุกสิ่งของ ไปบริจาคให้ผู้ประสบภัย ที่แขวงอัตตะปือ เกิดตกสะพานข้ามแม่น้ำ เซน้ำน้อย ที่เมืองปากซอง แขวงจำปาสัก สปป.ลาว วานนี้ (29 กรกฎาคม) เวลา 10.00 น.

เหตุดังกล่าว ส่งผลให้คนขับรถ เสียชีวิต 1 คน ทราบชื่อ นายอินปัน จันทะวงสา ชาวบ้านคำแสนไช เมืองไชพูทอง แขวงสะหวันนะเขต นอกจากนี้ มีผู้โดยสารบาดเจ็บ 2 ราย เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงแล้ว

ส่วน สถานการณ์ล่าสุดในประเทศลาว ว่า ขณะนี้ระดับน้ำในปากเซยัง ยังคงเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารของ สปป.ลาว เร่งก่อสร้างกำแพง เพื่อป้องกันดินโคลนถล่ม ในอำเภอปากเซ จังหวัดจำปาสักอย่างเร่งด่วน

ด้าน สำนักงานสหประชาชาติ ประจำ สปป. ลาว เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมจากเหตุเขื่อนแตก ในแขวงอัตตะปือ ว่า จากการสำรวจ มีผู้ประสบภัย 11,034 คน ในจำนวนนี้ 3,060 คน ขึ้นทะเบียน ตามศูนย์พักพิงของทางการ

ส่วนตัวเลข ผู้เสียชีวิต รัฐบาลลาว ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอยู่ที่อย่างน้อย 27 คน และ สูญหาย 1,126 คน ตอนนี้ สิ่งที่ผู้ประสบภัยต้องการอย่างเร่งด่วน คือ อาหาร

ซึ่งจากการประเมิน ต้องใช้มากถึง 96 ตัน ต่อเดือน นอกจากนี้ ประชาชนอย่างน้อย 48 คน ต้องเข้ารับการดูแล สภาพจิตใจ และอยู่ในความดูแลของจิตแพทย์ เนื่องจากความสูญเสียที่เกิดขึ้น