มีผู้ทำภาพการ์ตูนแชร์ในโซเชียล เพื่อทำความเข้าใจเหตุการณ์การช่วยเหลือโค้ชและนักฟุตบอลเยาวชน 13 คนที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ว่าเป็นเรื่องของภัยธรรมชาติมากกว่าสิ่งเร้นลับ

นี่เป็นภาพการ์ตูนที่นักวาดภาพที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า "โอเน่ ชนารดี" ทำขึ้น และถูกแชร์ในโซเชียลเป็นจำนวนมาก

โดยภาพการ์ตูนดังกล่าวนั้นตั้งชื่อเรื่องว่า "ถ้ำหลวง" ภัยธรรมชาติหรือ "อิทธิฤทธิ์สิ่งลี้ลับ" มีเนื้อหาบอกเล่าเรื่องราวการติดถ้ำหลวงของโค้ชและน้องๆนักฟุตบอลทั้ง 13 ชีวิต

-ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ที่โค้ชและน้องๆเข้าไปเที่ยวในถ้ำ ช่วงที่ฝนยังไม่ตกลงมา

-ถัดมาเป็นภาพที่บอกว่า เนื่องจากช่วงนี้นอกจากเป็นหน้าฝนแล้ว ยังเป็นเพราะความชื้นบนภูเขาและอิทธิพลจากลมมรสุมจากทะเล ทำให้เกิดฝนตกหนัก แต่โค้ชและเด็กที่อยู่ในถ้ำอาจไม่รู้

-ซึ่งน้ำที่มีปริมาณมากได้ทยอยไหลเข้าท่วมบริเวณทางออกในถ้ำ ทำให้ทั้งหมดไม่สามารถออกมาได้

-คาดว่าด้วยเหตุนี้ น่าจะทำให้เด็กๆและโค้ช เดินหนีน้ำลึกเข้าไปในถ้ำเรื่อยๆ

-ในภาพการ์ตูนนี้ ยังพยายามอธิบายเรื่องที่มีคนพูดกันตามความเชื่อว่า เด็กๆอาจไปลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ฝนตกมาปิดปากถ้ำ ว่าไม่ควรไปโทษเด็กๆหากไม่อยู่ในเหตุการณ์

-ภาพการ์ตูนนี้ยังเล่าถึงความยากลำบากในการค้นหาเด็กๆท่ามกลางความมืด ดินโคลน และน้ำ จนต้องประสานหน่วยซีลช่วยค้นหา ท่ามกลางกระแสข่าวลือเกี่ยวกับสิ่งเร้นลับ ที่ทำให้หลายคนเชื่อว่า สาเหตุที่ยังหาเด็กๆไม่เจอเป็นเพราะสิ่งที่มองไม่เห็น

-ภาพการ์ตูนนี้ ก็พยายามอยากให้ผู้ติดตามเหตุการณ์นี้ให้ความสำคัญกับข้อเท็จจริงมากกว่าว่า สาเหตุมาจากอุปสรรคเรื่องสภาพพื้นที่ ทั้งการต้องดำน้ำลึก ท่ามกลางดินโคลน มองเห็นแค่ระยะ 15 เซนติเมตร การต้องหลบความแหลมคมของหินงอกหินย้อยท่ามกลางความมืด และเด็กๆก็อาจเดินหนีน้ำเข้าไปเรื่อยๆเพราะถ้ำนี้มีความยาวหลายกิโลเมตร

-ภาพการ์ตูนยังอธิบายเรื่องเสียงตะโกนเรียกที่อาจไปไม่ถึงเด็กว่า อาจเป็นเพราะถ้ำมีหินงอกหินย้อยและน้ำท่วมทำให้ดูดซับเสียงเอาไว้ เด็กๆจึงอาจไม่ได้ยินเสียงที่พยายามตะโกนเข้าไป

-ในตอนท้ายๆของภาพการ์ตูนยังบอกว่า แทนที่จะให้ความสำคัญกับความเชื่อที่ยากจะอธิบายได้นั้น อยากให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับการส่งกำลังใจไปถึงเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ที่เข้าไปช่วยเหลือเด็กๆ ที่ทำงานเสี่ยงอันตราย ตลอด 24 ชั่วโมง

-พร้อมสรุปในตอนท้ายว่า ความล่าช้าในการช่วยเหลือนั้นเป็นเรื่องอุปสรรคทางธรรมชาติมากกว่าจะเป็นเรื่องเร้นลับ

ล่าสุดทีมข่าวได้ติดต่อกับนางสาวศิริญพร เจตบรรจง ซึ่งใช้นามปากกาว่า " โอเน่ ชนารดี" ที่เป็นผู้วาดการ์ตูนนี้ เล่าว่า ที่ผ่านมาติดตามข่าวนี้มาตลอด และก็รับฟังข้อมูลหลายด้าน บางเรื่องส่วนตัวรู้สึกว่า เป็นเรื่องความเชื่อที่บั่นทอนจิตใจของญาติและผู้ติดตามข่าว จึงอยากวาดการ์ตูนที่สื่อถึงข้อเท็จจริง โดยมองเรื่องเหตุผลมากกว่า โดยนำข้อมูลมาจากสื่อต่างๆ ซึ่งก็ใช้เวลาวาดเมื่อคืนนี้เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนถึง ตี 3

ผู้วาดการ์ตูนนี้ยังฝากส่งกำลังใจไปถึงทั้ง 13 คนให้รอคอยอย่างมีความหวัง เพราะเชื่อว่าจะต้องออกจากถ้ำได้อย่างปลอดภัยในเร็วๆนี้