รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ติดตามเร่งรัดโครงการขุดคลองผันน้ำแม่น้ำตรัง ที่ล่าช้า และ ใกล้จะหมดสัญญา หลังจากยืดเวลาให้ถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2561
นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทานฝ่ายก่อสร้าง พร้อมด้วย นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้างแก้มลิงช่วงตำบลบางรัก นาโต๊ะหมิง และตำบลหนองตรุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง หลังจากโครงการดังกล่าวได้มีการดำเนินการก่อสร้างมาใกล้จะหมดสัญญา แต่ผลการดำเนินการก่อสร้างคืบหน้าไปเพียงกว่าร้อยละ 10 เท่านั้น โดยผู้รับเหมา ระบุว่า สาเหตุที่ล่าช้า เกิดจากฝนตกหนัก และน้ำท่วมจึงไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ ขณะเดียวกันได้มีการขยายอายุสัญญา ให้ผู้รับเหมาไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2561
นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ทางจังหวัดและกรมชลประทาน จะต้องเร่งรัดการก่อสร้าง ให้คืบหน้าไปให้เร็วที่สุด หากไม่เสร็จตามกำหนดก็ต้องปรับตามกฎหมาย และ ที่ผ่านมากรรมการตรวจรับงานจ้าง และกรมชลประทานได้แจ้งเตือนผู้รับจ้างไปแล้วกว่า 10 ครั้ง
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว เป็นความหวังของชาวบ้าน ขณะนี้ทางกรมชลประทาน เตรียมการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการเร่งรัดให้ผู้รับจ้างระดมเครื่องจักรกล และ กำลังคน ทำงานให้สามารถระบายน้ำให้ได้ประมาณ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที จากทั้งหมดโครงการที่กำหนดไว้ 750 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที
ทางจังหวัดจะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนป้องกันไม่ให้เกิดความสับสน ด้วยการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด จากทั้งภารคัฐ และภาคประชาชน เพื่อบูรณาการทำงานร่วมกันในการรับมือกับปัญหาฤดูน้ำหลากที่มาถึง ในระหว่างที่โครงการยังไม่แล้วเสร็จ
ด้าน นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงปัญหาความล่าช้าของโครงการว่า สาเหตุสำคัญเกิดจากความไม่พร้อมของบริษัทผู้รับจ้าง ทั้งเครื่องจักรกล บุคลากรที่นำมาน้อย ไม่เป็นไปตามแผน เพราะบริษัทนี้เป็นบริษัทใหญ่เข้ารับเหมางานก่อสร้างเป็นจำนวนมาก ทำให้ทำงานไม่ทัน
ขณะนี้ ทางกรมชลประทานได้เข้ามากำกับการก่อสร้างอย่างใกล้ชิด ด้วยการจัดทำแผนปฏิบัติงานประจำสัปดาห์แล้วกำกับให้เป็นไปตามแผน
และกรมชลประทานจะโอนงบประมาณไปให้แขวงทางหลวงจำนวนหนึ่ง ทำการขยายสะพานเพื่อเพิ่มช่องระบายน้ำลงด้านล่างให้กว้างขึ้นด้วย ส่วนการจะต่ออายุสัญญารอบ 2 ให้แก่บริษัทนี้ต่อไปหรือไม่ นับจากสิ้นสุดการขยายอายุสัญญา จะต้องพิจารณาจากหลายด้านประกอบกัน