ผู้ประกอบการเกสเฮ้าส์ และที่พักรายย่อย หลายร้อยแห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ต่างพากันหยุดกิจการ พร้อมทั้งปิดป้ายประกาศทั้งขายและเซ้งกิจการ เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.โรงแรม ที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันเข้าตรวจสอบและจับกุมดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง

นายอำนาจ ดวงสิงห์ ตัวแทนผู้ประกอบการเกสเฮ้าส์และที่พักรายย่อย ในจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการต่างพากันปิดกิจการทั้งหมด ทั้งๆ ที่ยังมีความต้องการของนักท่องเที่ยวที่จะใช้บริการ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ

เหตุผลที่ต้องปิด เพราะได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและจับกุมอย่างต่อเนื่อง ฐานความผิด พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 เนื่องจากลักษณะอาคารที่ใช้ประกอบการไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เป็นเพราะเป็นอาคารที่สร้างมาก่อนที่จะมีกฎหมาย ที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการส่วนใหญ่ มีความพยามที่จะปรับปรุงอาคารให้ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว แต่ติดขัดในข้อกฎหมาย จึงไม่สามารถทำได้และเกิดปัญหาขึ้น

ทั้งนี้ ยอมรับว่าการปิดกิจการจำเป็นต้องทำ แม้จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเล็กๆ ในครอบครัวที่ใช้หาเลี้ยงชีพ

ขณะเดียวกัน ยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในชุมชนและจังหวัดเชียงใหม่ด้วย เพราะเมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการก็ไม่สามารถขายสินค้าและบริการต่างๆ ได้

โดยในวันนี้ (7 มิ.ย.61) ผู้ประกอบการเกสเฮ้าส์และที่พักรายย่อย ในจังหวัดเชียงใหม่ จะไปยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ถึงนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ โดยขอให้ชะลอการบังคับใช้กฎหมายและจับกุมผู้ประกอบการไว้ก่อน และ แก้ไขปัญหาด้วยการออกกฎกระทรวงมาบังคับใช้ ในการควบคุมผู้ประกอบการเกสเฮ้าส์และที่พักรายย่อย เพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งผู้ประกอบการพร้อมที่จะปรับปรุงและปฏิบัติตาม

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประกอบการได้รวมตัวกันและรวบรวมรายชื่อจัดทำหนังสือยื่นขอความช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย จากสภาทนายความจังหวัดเชียงใหม่มาแล้วเช่นกัน